top of page

ถ่ายภาพด้วย iPhone14 Pro

Updated: Aug 24, 2023

"ใครจะซื้อผมเบรค ใครยังไม่ซื้อผมเชียร์"

ภาพรายละเอียดจากไฟล์ RAW+LR


สวัสดีครับ วันนี้เล่าเรื่องกันถึง iphone 14 PRO ที่ครั้งก่อนเอาภาพถ่ายเปรียบเทียบกับ Leica SL2-S มาลงไว้ให้รับชมกัน จะเห็นกว่ากล้องจากโทรศัพท์มือถือปัจจุบันถือว่าทำได้ดีมาก ๆ แล้วกับข้อจำกัดทางด้านฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ (ถ้าใช้ซอฟแวร์ระดับที่โทรศัพท์ใช้ มารันเซนเซอร์ขนาดใหญ่ น่าจะเทพทีเดียว) วันนี้มาเจาะลึกกันนิดหน่อยครับ หลังจากได้ทดลองใช้งาน iphone 14 PRO มาสักเดือนกว่า ๆ ว่าเรื่องกล้องจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร


“รีวิวนี้เป็นรีวิวจริง ๆ ไม่ใช่ขายของ ไม่ได้รับจ้าง และทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว”


ก่อนไปเรื่องดีงามขอระบุข้อจำกัดที่พบจากการถ่ายภาพก่อนนะครับ เอาเฉพาะภาพนิ่ง เพราะวิดีโอยังไม่ค่อยได้ถ่ายครับ เผื่อใครใจไปแล้วจะได้เรียกสติกลับมานิดนึง

คุณภาพของภาพถ่ายที่ 0.5x, 1x, 2x, 3x, 5x, 10x, และ 15x


สำหรับเรื่องกล้องของ iPhone 14 PRO หลักใหญ่ใจความเลยคือมันมาพร้อมเซนเซอร์ใหม่ขนาดใหญ่กว่าเดิม (ใหญ่กว่า iphone 13 PRO อยู่สักประมาณ 60%) ซึ่งไม่น้อยเลยครับ ทำให้ iphone 14 PRO นี้ถ่ายภาพได้เนียนกว่ามาก การจัดการจุดรบกวนดีกว่ามาก แถมด้วยการถ่ายไฟล์ RAW ได้ที่ 48 ล้านพิกเซล (เดี๋ยวจะว่ากันต่อไป) แต่ ๆ ๆ เซนเซอร์ใหญ่ที่ว่านี้มีอยู่ประจำแค่กล้องหลักตัวเดียวเท่านั้นนะครับ เมื่อไรที่ใช้เลนส์ Ultra wide หรือ Telephoto ถ่ายก็ยังได้ภาพจากเซนเซอร์เล็ก ๆ เดิม ๆ อยู่ ทำให้ในบางสถานการณ์ภาพถ่ายที่ได้ออกมาดู “แย่” ได้เหมือนกัน ตรงนี้เป็นการ “กั๊ก” ที่ยิ่งใหญ่มาก และทำให้คุณภาพของภาพที่ได้จากโทรศัพท์เครื่องนี้ขาดความสม่ำเสมอ บางภาพดี บางภาพแย่ และบางสถานการณ์หวังผลไม่ได้จากการมองแค่ในจอโทรศัพท์ เรื่องนี้ผมว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยที่ว่าใครอยากเปลี่ยนมาใช้ iphone 14 PRO ณ เวลานี้ “อย่าเพิ่งมา” ดีกว่าครับ ถ้ารอได้ รอให้มันปรับปรุงเซนเซอร์ให้มันดีครบทุกกล้องก่อนดีกว่า

ภาพภายในอาคารกับแสงเช้า RAW+LR


ภาพถ่ายที่ 48 ล้านพิกเซล อย่าเพิ่งตื่นเต้นกับมันมากนะครับ เพราะจะถ่าย 48 ล้านพิกเซลได้ต้องใช้การถ่ายด้วยไฟล์ RAW เท่านั้น ถ้าถ่ายด้วย jpg หรือ heic ปกติจะได้ภาพที่ขนาด 12 ล้านพิกเซลครับ (1 พิกเซลปกติของ Bayer pattern มี แดงx1 น้ำเงินx1 เขียวx2 เพราะฉะนั้น 12MP x 4 = 48MP) ฟังดูเหมือนโดนหลอก แต่ก็ไม่ได้หลอกเสียทีเดียวหรอกครับ เพราะเขาใช้วิธีการจัดการให้ 1 photodiode แทน 1 pixel ในการถ่าย RAW ก็แค่นั้นเอง แล้วเราก็จะสามารถถ่ายไฟล์ RAW ขนาด 48MP ได้เฉพาะเวลาใช้กล้องหลักที่มีเซนเซอร์ใหม่นี้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ถ่ายด้วยกล้องอื่นเซนเซอร์เล็กก็ไม่ค่อยสมประโยชน์กับคุณภาพของไฟล์ RAW ที่ได้ ณ ปัจจุบันเท่าไร

ภาพจาก RAW + LR


การเอาภาพลงคอมพ์ก็เป็นความลึกล้ำไปอีกแบบ หากเปิดแอพ Photos แล้วลากไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์จะได้แต่ภาพ jpg นะครับ ถ้าอยากได้ RAW ต้องส่งผ่าน Air drop เท่านั้น และถ้าเผลอนึกสนุกไปแต่งภาพ RAW ในโทรศัพท์ไว้ก่อน ไฟล์ที่ส่งมาจะกลายเป็น jpg ทันทีครับ (ต้องไป Revert to original ให้หมดเสียก่อน)


iPhone 14 PRO มีข้อจำกัดมากเรื่องสมดุลแสงขาวที่ค่อนข้างแกว่งมาก ถ่ายมาบางครั้งสีอมเขียว อมม่วงบ้างจนงงกันไป เรื่องนี้หวังว่าอีกหน่อยน่าจะแก้ไขกันได้ที่ซอฟแวร์ครับ ถ้าใครจะซื้อมาถ่ายรูปจริงจัง แนะนำให้รอดูก่อนว่า Apple จะแก้ไขปัญหานี้หรือไม่อย่างไร

ภาพจาก RAW + LR


ภาพในจอโทรศัพท์ดูดี แต่มาขยายดูในจอใหญ่ยังเห็นว่าเนื้อไฟล์ไม่เนียน ยังไงก็ยังไม่มีทางสู้กล้องดิจิทัลที่ขายกันโดยทั่วไปได้ แต่มันดีมากพอที่จะดูบนจอแบบไม่ซูมหาเรื่องหรือปริ้นท์ออกมาใช้งานครับ การปรับแต่งภาพมีคอนทราสต์ที่ดี ในบางสถานการณ์ภาพโดดเด้งได้ดีมากทีเดียว การจัดการเรื่องสีเท่าที่ได้ลองโทรศัพท์มาผมก็ยังเชื่อว่า iphone จัดการสีได้ดีที่สุด สีค่อนข้างตรง ไม่บูสต์ย่านสีใดเป็นพิเศษ ภาพที่ได้มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เตะตาแต่สีสันหลอก ๆ ครับ

ภาพถ่ายกลางคืนจาก RAW + LR


จุดเด่นจากเซนเซอร์ขนาดใหญ่คือการถ่ายภาพกลางคืน iphone 14 PRO มีการจัดการจุดรบกวนที่ดีมากเมื่อเทียบกับขนาดเซนเซอร์ และเราสามารถถือกล้องถ่ายได้เลยในสภาพแสงที่น้อยสุด ๆ แล้วยังได้ภาพที่คมชัด เรื่องนี้ดีมาก ๆ ดีจนตกใจ มันถือถ่ายดาวได้ เห็นไปถึงดาวลูกไก่

ตั้งขาตั้งถ่ายดาว 30 วินาที RAW + LR


แต่ถ้าจะถ่ายดาวจริงจังหน่อยต้องใช้ขาตั้ง เปิดไนท์โหมด 30 วินาที เรียกช้างมาได้เหมือนกันถ่ายง่ายกว่ากล้องใหญ่ ๆ มาก ถ่ายภาพกลางคืนแบบนี้ก็สะดวกดีครับเพียงแต่ว่าผมไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับการควบคุมแสงสะท้อนภายในชุดเลนส์หรือไม่ที่ทำให้ภาพที่ได้ออกมาสว่างตรงกลางมากกว่าขอบภาพเยอะเมื่อเปิดชัตเตอร์ทิ้งไว้นาน ๆ และการถ่ายภาพดาวหากติด Foreground ที่เคลื่อนไหวมาด้วย เช่น ต้นไม้ ใบไม้ ภาพจะถูกโปรเซสออกมาแบบพลาด ๆ หลอกตามากทีเดียว

Portrait mode ถ่ายได้เฉพาะ jpg(heic) เท่านั้น


Portrait mode เป็นอีกโหมดหนึ่งที่ผมชอบใช้เป็นพิเศษ การตัดภาพตัวแบบเริ่มเนียนขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถ่ายสวยง่าย บางครั้งถ่ายไกล ๆ ยังพอได้ มิติภาพจะดีงาม เบลอด้านหน้าก็ทำได้ดี ถ่ายอาหารใกล้ ๆ บางครั้งก็ใช้โหมดนี้ได้เหมือนกัน แล้วแต่อารมณ์ของกล้องมัน ถ่ายนอกระยะบางทีก็ให้บางทีก็ไม่ให้

Live photo แล้วเลือก Long Exposure ถ่ายได้เฉพาะ jpg(heic) เท่านั้น

Live photo แล้วเลือก Long Exposure ถ่ายได้เฉพาะ jpg(heic) เท่านั้น


Live photo ได้ใช้ประโยชน์มันบ้างเสียทีตอนถ่ายน้ำตก น้ำไหล อะไรก็แล้วแต่ที่อยากลากชัตเตอร์ยาว ๆ ให้เปิด Live photo เลยครับ พอถ่ายเสร็จแล้วค่อยมากดเลือกให้มันเป็น Long exposure ภาพที่ได้น่าประทับใจทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าถือถ่ายภาพส่วนที่ควรจะชัดมันมักจะเบลอ ๆ ไปด้วยมือของเราเองนี่แหละครับ ถ้ามีขาตั้งกล้องสักหน่อยน่าจะดีมาก

ภาพจาก RAW + LR


อย่างไรก็ตามส่วนตัวผมคิดว่า iphone 14 pro สามารถมาแทนที่กล้องคอมแพ็คเอาไว้ถ่ายโน่นนี่ได้ จริงจังได้บ้างตามโอกาส มีจังหวะได้ภาพสูงเพราะมันอยู่ติดตัวเราตลอดเวลา แต่คุณภาพของภาพยังไม่สามารถมาแทน “ชุดใหญ่” ของเราได้ ความเนียนของไฟล์ภาพยังห่างไกลเกินไป เซนเซอร์ใหม่ที่ดีงามยังกั๊กให้ใช้อยู่เฉพาะกล้องหลักเท่านั้น และเลนส์เทเลยังไปได้ไม่ไกลเท่าไรถ่ายนกถ่ายหนูมาได้ภาพแต่ไม่ได้คุณภาพ พวกเราจึงยังคงต้องแบกกล้องใหญ่กันให้คอห้อยต่อไปครับ สวัสดี


สุดท้ายฝากภาพจาก iPhone14 Pro ไว้เพื่อพิจารณา สามารถดาวน์โหลดภาพ Original ได้เลยนะครับ




Comments


bottom of page