top of page

Panasonic LumixS 24-105 F4 Macro OIS

Updated: Aug 24, 2023

“ตัวเดียวเที่ยวไปทั่ว”


เมื่อเรามีกล้อง Sigma fp ที่เป็น L mount แล้ว เลนส์ก็ต้องงอกตามมาเป็นธรรมดาครับ และเลนส์ช่วงที่ขาดไม่ได้สำหรับสายสะพายกล้องเที่ยวแบบขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์ ก็คือช่วง normal zoom อเนกประสงค์นั่นเองครับ สมัยก่อนที่เคยใช้ Canon และ Nikon จะไปลงเอยกับ 24-70 ของค่ายทุกครั้ง เพราะอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด สว่างที่สุด คมที่สุดเสมอ ช่วงหนุ่ม ๆ ยังแบกของหนักได้สบายมาก แต่พอมาระยะหลังเริ่มแก่ ก็เริ่มหันไปให้ความสำคัญกับช่วงซูมที่เพิ่มขึ้นมากกว่าค่ารูรับแสง ครั้นจะหาเลนส์พวกซูมโกง 28-300 มาใช้ก็ยังไม่มีค่ายไหนทำคุณภาพได้ถึง ๆ นะครับ ตอนใช้นิคอนก็มี 28-300 F3.5-5.6 ED VR ช่วงปลายซูมบางสถานการณ์สามารถใช้คำว่าเน่าได้ ก็เลยคิดว่าแยกเอาดีกว่า ควงกล้อง Sigma แล้ว ตัวเลือกอันดับแรกเลยคงหนีไม่พ้น Sigma 24-70 F2.8 DG DN Art ตัวเก่ง แต่อย่างว่าครับ ผมว่ามันยังไม่อเนกประสงค์พอแถมหนักไปนิด และใหญ่ไปสักหน่อย อีกตัวที่มองไว้คือ Leica Vario Elmarit SL 24-90 F2.8-4 ASPH. ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทั้งหนักใหญ่แพง เลยมาลงเอยกับ Panasonic LumixS 24-105 F4 Macro OIS เอามาลองเล่นแทน เพราะเห็นว่าน้ำหนักดี ช่วงดี เหมาะกับคนแก่ และมีเพื่อนท่านหนึ่งควงเลนส์ Canon 24-105 F4 L ใช้มาเป็นสิบปี ผมก็ได้ดูภาพมาจนคุ้นตาก็เห็นว่าระยะนี้ไม่ได้แย่ ถ่ายใกล้ก็ได้ ถึงแม้จะเป็น F4 แต่ก็ละลายหลังบน Full frame ใช้ได้อยู่ เลยคิดว่าจะลองช่วงนี้ดูบ้าง และเป็นการให้โอกาส Panasonic สอบเข้ามาอยู่ในกรุผมสักตัวหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาสารภาพตามตรงว่าไม่เคยมองและสนใจยี่ห้อนี้เลย



Panasonic LumixS 24-105 F4 Macro OIS มาพร้อมกับ L mount ที่ใช้ร่วมกันได้ทั้ง Leica Sigma Panasonic กับน้ำหนักตัวไม่มากเกินไปที่ 680g (Sigma 24-70 อยู่ที่ 835g, Leica 24-90 อยู่ที่ 1,140g) ชิ้นเลนส์ 16 ชิ้น 13 กลุ่ม



ข้อดีของ 24-105 อย่างหนึ่งคือสามารถ่ายได้อัตราการขยายภาพสูงถึง 1:2 ซึ่งจะขอย้ำตรงนี้นะครับว่าอัตราขยาย 1:2 ยังไม่ใช่ระดับ Macro 1:1 ครับ การที่ Panasonic เอาคำว่า Macro มาใส่คงประมาณว่าเป็นการตลาดเพื่อแสดงให้เห็นว่าเลนส์ตัวนี้ถ่ายภาพได้อัตราขยายสูงครับ ผมลองเอาภาพอัตราขยาย 1:2 จากเลนส์ตัวนี้ เปรียบเทียบกับอัตราขยาย 1:1 ของ Sigma 70 F2.8 Macro จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันมากพอสมควร กระนั้นเจ้า 24-105 ก็ถือว่าเป็นเลนส์ซูมอเนกประสงค์ที่สามารถถ่ายได้อัตราขยายสูงแล้ว ทำให้เป็นเลนส์ที่ถ่ายสนุก ถ่ายได้ใกล้ ถ่ายดอกไม้ใบไม้เวลาออกทริปท่องเที่ยวได้ดีครับ


เปรียบเทียบภาพ Macro 1:1 จาก Sigma 70/2.8 DG DN Macro กับ Lumix S 24-105/4 OIS 1:2


การจับถือใช้งานเลนส์ตัวนี้ถือว่าทำมาได้ปกติครับ ผมชอบในส่วนวงแหวนปรับโฟกัส สำหรับเลนส์ถ่ายทั่วไปแบบนี้เขาเซ็ตระยะมาให้ค่อนข้างสั้น หมุนเข้าได้เร็ว แตกต่างจากเลนส์ Macro ที่มีระยะหมุนยาว ปรับโฟกัสได้ละเอียด ซึ่งก็ถือว่าเป็นเลนส์เฉพาะทางไปอีกแนวหนึ่งนะครับ จะเอามาเปรียบเทียบกันตรง ๆ คงไม่ได้ วงแหวนซูมก็ปกติครับ รุ่นนี้มีตัวล็อกกันเวลาห้อยแล้วเลนส์ไหลยื่นออกมาให้ด้วย เท่าที่ลองดูตัวนี้ไหลง่ายในช่วงแรกนะครับ ออกมานิดเดียว ที่เหลือถึงไม่ล็อกไว้ สะพายเดินเล่นก็ไม่ไหลครับ แต่อย่างว่า แรก ๆ มันอาจจะยังฟิต นาน ๆ ไปค่อยมาดูกันอีกทีครับ งานออกแบบบริเวณปุ่มและสวิตช์ต่าง ๆ ผมว่ามันง่ายไปหน่อยนะครับ ดูจ๋อย แต่เหมือนตั้งใจให้เลนส์ดูราคาไม่แพง (ทั้งที่จริง ๆ มันถือว่าแพงนะ ถ้าเทียบกับเลนส์กลุ่มนี้) ควรตั้งใจกว่านี้อีกหน่อยนะครับ


Crop มาแสดงให้ดูนะครับว่าถ่ายภาพใกล้แล้วมีความคมขนาดไหนกับเลนส์ตัวนี้ครับ


เลนส์ฮูดตัวนี้ก็ออกแบบมาได้ดี สิ่งที่ถูกใจอยู่ตรงระบบล็อกของเขาครับ มีปุ่มกดล็อกชัดเจนไปเลย แบบนี้แน่นหนาดี ไม่หมุนหลุดออกมาเองง่าย ๆ



เรื่องการโฟกัส อาจรีวิวกันได้ยากครับ เพราะผมใช้กับ Sigma fp ซึ่งมีชื่อเสียงว่าโฟกัสห่วยกว่าชาวบ้านเขาอยู่แล้ว การใช้งานกับเลนส์ตัวนี้ก็ถือว่าได้ภาพ ได้โอกาสอยู่นะครับ เทียบกับเลนส์ค่ายอย่าง 45mm F2.8 ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีความแตกต่างกันในการใช้งานจริง



มาถึงเรื่องคุณภาพของภาพนะครับ จริง ๆ ตัวนี้เป็นเลนส์ที่ตั้งราคาไว้แพงเมื่อเทียบกับคู่ชกในช่วงเดียวกันจากค่ายอื่น เรื่องคุณภาพของภาพก็จัดว่าโอเคเลย ที่ F4 ก็คมอยู่ แต่บังเอิญตอนไปลอง ไปเทียบกับ Leica 24-70 มันก็เห็นได้ค่อนข้างชัดว่า Panasonic สู้ไม่ได้ครับ (ซูมดู 100%) เรื่องไมโครคอนทราสก็ยังสู้ไลก้าไม่ได้จริง ๆ ครับ อย่างไรก็ตามเลนส์ตัวนี้ไม่ได้แย่นะครับ ถือว่าคมดีทีเดียว เดี๋ยวจะพาลคิดว่าไม่คมกัน การถ่ายภาพมิติต่าง ๆ ถือว่าดี ความเด้งหรือ 3D pop มีพอประมาณ ไม่มากมาย จะติงไว้นิดหน่อยคือผมอาจรู้สึกไปเองว่าใช้เลนส์ตัวนี้แล้วภาพมันติดเหลืองมากกว่าปกตินิดนึง อันนี้อาจคิดไปเองก็ได้ ลองชมภาพตัวอย่างประกอบกันดูก็แล้วกันนะครับ เรื่องขอบมืด (Vignette) มีแน่ มาแน่ และค่อย ๆ หายไป นึกอะไรไม่ออกก็บอก F8 ครับ ดี จบ ถ้วนทั่วทุกตัวเลนส์ มี OIS เสียอย่างจะไปกลัวอะไร



Comments


bottom of page