"หน้าตาไม่น่าสนใจเท่า spec"
สวัสดีครับ มาแล้ว Lot แรกของ Nikon Zf ที่เพิ่งเปิดตัวไป เอาหน้าตาหล่อเหลามาให้ยลโฉมกันก่อน แถมแย้ม ๆ บอกไว้ก่อนเลยว่าสิ่งที่น่าสนใจของ Nikon Zf ไม่ได้อยู่ที่หน้าตาแต่เพียงอย่างเดียว สิ่งที่น่าจะทำให้ตากล้องตัดสินใจซื้อหามาใช้กันจริง ๆ มันอยู่ที่ spec ครับ อย่าคิดว่า Zf คือ Z6ii ที่ยกมาทำเหมือนครั้ง Z50 กับ Zfc นะครับ ตัวนี้พูดได้เต็มปากว่ามันอยู่ตรงกลางระหว่าง Z6ii กับ Z8 เลยล่ะครับ จุดหลัก ๆ ที่น่าจะดูดผู้ใช้งานมาได้ไม่ยากคือ Expeed 7 และระบบ Auto focus ที่เทียบชั้นกับรุ่นพี่อย่าง Z8 Z9 ได้อย่างไม่น้อยหน้า และยังเต็มไปด้วยรายละเอียดใหม่ ๆ อีกมากมายที่ "ยัด" เข้ามาในกล้องหน้าตาคลาสสิกตัวนี้ เอาไว้ทดลองใช้ให้หนำใจก่อนแล้วจะรวบรวมภาพและประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง น่าจะทันให้เพื่อนพี่น้องได้อ่านกันก่อนกล้อง Lot ต่อไปจะมา ^_^
"คำเตือน" Zf ไม่มีที่ชาร์ตแบตเตอรี่ MH-25a มาให้ด้วยนะครับ (Lot แรกเขาแถมเป็นกล่องแยกมา ไม่แน่ใจว่า Lot ต่อ ๆ ไปจะเป็นอย่างไร)
พูดกันถึงเรื่องบอดี้ที่ทำแนว Retro ย้อนยุคไปสมัย Nikon FM2 ตัวดังของค่าย (จริง ๆ ก็ยังไม่เก่ามากเท่าไร วางขายกันมาเลยปี 2000) นิคอนทำตัวนี้มาค่อนข้างดีเลยนะครับ เทียบกับ Zfc ตัวก่อนหน้า Plate บนและล่างทำจาก Magnesium Alloy เหมือนกันเพราะมันเบาแล้วก็แข็งแรงดี ฟิลลิ่งแรกในการจับถือผมย้อนนึกไปถึง Fujifilm X-pro1 ที่เคยใช้เมื่อสมัยก่อน ประมาณเดียวกันเลยครับ ผมว่าความแน่นกับความหนักมันคนละเรื่องกันครับ หลายท่านชี้ว่า Zf หนักดี แต่ผมว่าความรู้สึกมันไม่แน่นปึ๊กแบบรถถัง ความรู้สึกไม่ดีหมือนกล้องฟิล์มสมัยก่อน Dial ต่าง ๆ ทำมาจากทองเหลือง (Zfc เป็นอลูมิเนียม) มีปุ่มล็อกเรียบร้อย ตรงนี้ก็น่าจะสร้างเสน่ห์ได้ดีครับ ถ้านาน ๆ ไปลอกออกมาน่าจะเซ็กซี่เหมือน Leica Black paint อย่างไรก็ตามบอดี้นี้ก็เห็นถึงความตั้งใจของนิคอนนะครับ ตัวอักษรต่าง ๆ เซาะร่องลงไปแล้วถมสี ป้องกันการลอกได้ดีทีเดียว เรื่อง Patina คงต้องดูกันไปยาว ๆ ครับ ว่าจะสวยหรือจะเน่า
ใช้กล้องนิคอน ช่องมองภาพต้อง "กลม" ครับ มันมักจะปรากฏเฉพาะในรุ่นท๊อป ๆ ส่วนตัวเวลาใช้แล้วรู้สึกดี หลายท่านอวยชัยให้พรกับความละเอียดของ EVF มันชัดเจนดีครับกับสามล้านกว่าพิกเซล แต่ไม่ใช่ที่สุดนะครับ หันไปมองพวก L mount บ้าง เช่น EVF ของ Leica SL2 นั่น 5 ล้านพิกเซลกับ Refresh rate ที่ 120Hz
จอด้านหลังพับเก็บเข้าไปได้ปิดด้วยวัสดุหนังเทียมซึ่งดีกว่าสมัย Zfc เป็นอย่างมากเพราะตัวนั้นเป็นเพียงพลาสติกเซาะร่อง ดูราคาถูกมาก ๆ เรื่องสไตล์การพับนี่หลายท่ายถูกใจ แต่ส่วนตัวผมเฉย ๆ ครับ จอ Fixed ไปเลยยังชอบมากกว่า แน่น ๆ ไป
ภาพมีฝุ่นสกปรกไปหน่อย แต่อยากจะชี้ให้ดูปุ่มหมุนปรับ ISO ครับ นี่เป็นสิ่งที่ไลก้าควรทำตาม ISO ดันไปได้เท่าไรก็ควรหมุนปรับให้ได้หมดแบบนี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่าเยอรมันทำฟังก์ชันมาขาด ๆ เกิน ๆ อย่างที่เคยบ่นไปตั้งแต่ M10 ยัน M11 สิ่งที่ผมคิดว่านิคอนพลาดคือสวิตช์ปรับ Mode ด้านล่างนี่ล่ะ มันเลื่อนได้ง่ายมากไปหน่อยอาจพลาดไปโดนได้ไม่ยาก
สิ่งดีงามคือปุ่มชัตเตอร์ที่ให้แบบคลาสสิกมา ดู ๆ แล้วน่าจะใช้สายลั่นชัตเตอร์แบบที่ใช้สมัยฟิล์มได้เลย (มีข้อมูลจาก Reviewer บางท่านว่าใช้ไม่ได้ ตรงนี้ผมยังไม่ได้ลองด้วยตัวเองครับ) เอาจริง ๆ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้รีโมทให้วุ่นวาย มันใช้โทรศัพท์แทนได้หมดแล้วเนอะ สิ่งที่ติดนิดนึงกับปุ่มนี้คือมันสูงเกินไปหน่อย ไม่ถนัดทั้งใจและกาย แต่ปุ่มชัตเตอร์ก็นุ่มนวลดีใช้ได้ ๆ ปุ่มปรับแก้สายตาของช่องมองภาพมีโอกาสที่มือไปโดนแล้วหมุนได้ง่ายกว่าตัวดีไซน์ปกติของนิคอนที่ต้องดึงออกมาก่อนเพื่อหมุน
จุดขายของรุ่นนี้คือสวิตช์ปรับไปถ่ายโหมดขาวดำได้ทันดี จะดีมากแค่ไหน เดี๋ยวว่ากันตอนรีวิวยาว ๆ ฟิลลิ่งปุ่มกดนุ่มนวลกว่าพวก Z6ii ที่เคยลอง Dial หนักแน่นลงล็อกได้ชัดเจน ไม่รูด เสียดายนิดเดียวไม่มี Joystick แล้วไม่เป็นไร แต่อยากได้ปุ่มกด 4 ทิศทางให้ใหญ่กว่านี้อีกสักหน่อยก็พอ
บอดี้ที่หลายคนถวิลหา จองกันยับ รอคิวกัน (น่าจะ) เพียบ ถึงขนาดเห็นคนมาขายต่อบวกราคากันแล้ว มันสวยครับ แต่ระบบนี้ เลนส์ใหญ่ ๆ มันมีหลายตัว กล้องแบน ๆ อย่าง Zf ไม่ค่อยมีกริ๊ปมันจับถือไม่ค่อยสะดวกมากนัก อันนี้ไม่ได้เป็นข้อติแต่อย่างใด แต่เป็นข้อจำกัดของบอดี้นี้ที่ผู้ใช้งานจะต้องเข้าใจและยอมรับให้ได้ หลายท่านอาจซื้อกริ๊ปมาติดเพิ่ม แต่จะยังเรียกมันว่าคลาสสิกแบบ FM2 ได้เต็มปากหรือไม่ก็อีกเรื่องนึงนะครับ ส่วนตัวผมไม่ชอบกริ๊ปนูนน้อย ๆ ของ Zf ที่ออกแบบมาเท่าไร ให้มันแบนไปเลยดีกว่า ได้อารมณ์กว่ามากหากจะใช้กันจริงจังใครจะติดกริ๊ปเพิ่มก็ติดไป ใครจะใช้เลนส์เล็ก ๆ แบบคลาสสิกก็จะได้กล้องแบน ๆ คลาสสิกไว้ใช้
วันนี้ออกแนวบ่น ๆ มากกว่า เพื่อให้เพื่อนพี่น้องเห็นภาพความเป็นจริงให้ชัดขึ้น กล้องเราเอง เราไม่อวย ฮ่ะ ๆ ๆ แล้วพบกันกับรีวิวการใช้งานคราวหน้ากันดีกว่าครับ... สวัสดี
Comments