top of page

Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH.

Updated: Sep 14, 2023

"เมื่อกล้องกับเลนส์คุยกัน"




สวัสดีครับมาต่อภาค 2 หลังจากที่ห่างหายไปนาน ไม่ได้ออกไปไหนเลยไม่ค่อยมีรูปมาฝากกัน และไม่ค่อยได้เอาเลนส์ออกไปลองใช้เสียด้วย แต่ดันมีเลนส์ใหม่ ฮ่ะ ๆ ๆ ขออนุญาตลัดคิวLeica SL2-S + Lens M mount ด้วยเจ้า Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH. ก่อนละกันครับ เพราะได้มาใช้แล้วมีประเด็นน่าสนใจพูดคุยกันได้เยอะทีเดียว

Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH. เปิดตัวออกมาปี 2021 นี่เองท่ามกลางคำครหา (ซึ่งมันก็จริงแหละ) ว่า Leica เอาเลนส์ Sigma 24-70 f2.8 DG DN Art ทั้งยวงมาใส่บอดี้ใหม่แล้วขายแพงกว่าสามเท่าหรือไม่ ซึ่งหลากหลายสำนักก็ให้ความเห็นแตกต่างกันออกไปและมีประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ว่าถ้าเราจะจ่ายเงินที่ซื้อ Sigma 24-70 ได้สามตัวเพื่อไปเล่น Leica 24-70 มันใช่เหรอออ ในเมื่อสูตรเลนส์ชิ้นเลนส์ก็เหมือนกันหมด แถมโค้ทติ้งก็ได้รับการบอกเล่าจากท่าน Taywa Tak ว่าเคยเอามาลองเทียบดูก็เห็นว่าสีสันการเคลือบชิ้นเลนส์ก็เหมือนกัน ทำให้หลายคนรวมทั้งผมเองที่มีเลนส์อนุกรม Sigma อยู่ในมืออยู่แล้วก็ไม่ได้สนใจมันมากนัก ผมก็เลยใช้เลนส์ Sigma ไปกับ SL2-S มันแบบนั้น เพราะเชื่อว่าเลนส์มันก็เหมือน ๆ กันแหละ แถมถูกกว่าตั้งเยอะ จนกระทั่งระยะหลังเริ่มรำคาญกับการโฟกัสของมัน คือมันไม่ได้ช้านะครับแต่มันก็ไม่ได้เร็ว โดยเฉพาะการ Tracking ที่ไม่ค่อยเข้าเป้าเวลาเอาไปเที่ยวไหน ๆ มาเปิดรูปดูในคอมพิวเตอร์ถึงกับหงุดหงิดเลยขายมันทิ้งซะดื้อ ๆ เอา Leica มาลองซิว่ามันจะเป็นอย่างไร

Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH. หน้าตาง่าย ๆ ขนาดกำลังพอดีมือ

แกะกล่องก่อน เดี๋ยวเรื่องการใช้งานไปว่ากันทีหลัง

สารภาพตามตรงว่าได้เลนส์มา แกะมันออกจากกล่องแล้วก็เอามาใช้เลยครับ ไม่ได้ดูรายละเอียด package มันเท่าไร (เพราะต้องเอาซ่อนเมีย 55) กล่องมันก็ธรรมดา ๆ ตามกล่องของอนุกรม SL แหละครับ จบ

ตัวเลนส์ดีกว่า ด้วยราคาขนาดนี้ แน่นอนว่าเราได้กระบอกเลนส์ที่ทำจากโลหะ และฮูดก็เป็นโลหะด้วย ความมั่นคงแข็งแรงดูดีมาก แต่ทนแค่ไหนไปทดสอบกันเองนะครับ ^_^ เลนส์ตัวนี้ต่างจาก Sigma 24-70 คือ ตัวเลนส์เรียบ ๆ เกลี้ยง ๆ ตรงไปตรงมาดี ไม่ทำส่วนลาดเอียงโค้งเว้า ไม่มีสวิตช์อะไรเลย ปุ่มล็อกเลนส์ก็ไม่มี ใช้มันไปทื่อ ๆ แบบนั้น สายที่ชอบปุ่มปรับที่เลนส์เยอะ ๆ คงไม่ชอบใจ แต่ผมว่ามันน่าจะช่วยเรื่องการป้องกันเลนส์จากสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น จุดที่ผมไม่ชอบเลยเกี่ยวกับการออกแบบเลนส์ตัวนี้มี 3 ที่ครับ

1. ฝาครอบเลนส์ตรงที่จับเป็นยาง ไม่เถียงเลยครับว่ามันจับได้ถนัดกว่าติดนิ้วกว่า ไม่หลุดมือหล่นได้ง่าย ๆ และดูพรีเมี่ยมมากกว่าฝากพลาสติกธรรมดา แต่สิ่งที่ค่อนข้างคาใจคือ เมื่อใช้ไปนาน ๆ มันจะเสื่อมสภาพเป็นเหนียว ๆ หรือขึ้นขาว ๆ หรือไม่ ก็ลุ้นกันเอา แต่ไม่ชอบไปก่อนแล้วฮ่ะ ๆ

2. ส่วนบนกระบอกเลนส์ที่ระบุยี่ห้อและรุ่น ประเจิดประเจ้อมาก ฟ้อนต์ขนาดใหญ่ บอกให้โลกรู้ และทำให้เลนส์ตัวนี้ดูรกไปเลย ไม่สวยเลยครับในสายตาผม

3. ส่วนตัวผมไม่ชอบฮูดที่หมุนเข้าไปเฉย ๆ ไม่มีระบบล็อกครับ เพราะมันเป็นเขี้ยวแบบนี้ไปชนอะไรทีหรือใส่กระเป๋าไว้ก็อาจไปโดนอะไรคลายล็อกหลุดร่วงได้ง่าย ๆ ครับ ผมชอบดีไซน์แบบเลนส์ M สมัยใหม่ ๆ ที่ใช้เกลียวใส่ฮูดมากกว่า เรียบร้อยดี ไม่ต้องมีระบบวุ่นวายมาก เบี้ยวง่ายแต่หล่นยากถ้าจะถอดต้องตั้งใจ

เรื่องน้ำหนักที่เห็นในหลายเว็บไซต์พูดถึงกันมาก แต่ผมว่าอย่าไปสนใจเลยครับ ถ้าคุณแบก SL2-S ได้ เลนส์ที่ใส่กับมันก็ต้องแบกได้แหละ น้ำหนักไม่ต่างกับ Sigma มากครับ ห้อยแล้วคอห้อยพอ ๆ กัน มองในแง่ดี อย่างน้อยก็เบากว่า 24-90!


อย่างไรก็ตาม ๆ ในรีวิวนี้ผมขอยังไม่พูดเรื่อง Leica 24-70 เปรียบเทียบกับ Leica 24-90 นะครับขออัดเน้น ๆ ระหว่าง Leica กับ Sigma เจ้าเลนส์แฝดสองตัวนี้ก่อนครับ

Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH. เมื่อต่อเข้ากับ SL2-S แล้ว ก็เป็นไปอย่างที่เจ้าสำนักรีวิวหลายท่านว่าไว้นะครับ กล้องกับเลนส์ทำงานร่วมกันได้ดี และเลนส์โฟกัสได้เร็วและแม่นยำมากขึ้นกว่า Sigma + SL2-S อย่างรู้สึกได้ คอนเฟิร์มครับ ส่วนนี้ผมว่าการใช้งานโอเคขึ้น แต่ถ้าจะจ่ายเงินไปขนาดนั้นเพื่อให้ได้ความเปลี่ยนแปลงเรื่องโฟกัส กับบอดี้แค่นี้ ผมว่ายังไม่คุ้ม เพราะเลนส์ Leica 24-70 ยังให้อะไรได้มากกว่านั้นครับ

เมื่อกล้องคุยกับเลนส์

เมื่อได้เลนส์มาแล้วผมก็มาลองถ่ายเล่นดูครับ ถ่ายอะไรต่ออะไรตามปกติที่คุ้นเคยนี่แหละ ก่อนจะพบว่าภาพมันต่างออกไปจาก Sigma แบบรู้สึกได้นะครับ ผมว่าตัว Leica ให้ภาพที่เคลียร์กว่า คมกว่า ขอบภาพก็คมกว่า มีคอนทราสต์สูงกว่าในบางกรณี ขณะเดียวกันการไล่โทนในหลายภาพเหมือนมีการไล่โทนในฉากหลังต่างกัน ใช้ได้ ๆ ถ้าใครใช้ Leica SL ลองเอามาถ่ายเทียบกันดูครับ แล้วจะพบว่าเลนส์สองตัวนี้ให้ภาพต่างกัน เลยพิมพ์ไปคุยกับ Taywa Tak แห่ง Kameracraft ท่านให้ความเห็นว่า สิ่งที่ต่างกันเป็นเรื่องของ Software แน่ ๆ เพราะ Optic ของ Leica และ Sigma ในเลนส์ 24-70 นี้ ไม่น่ามีอะไรต่างกันเลยยยยย โค้ทติ้งก็ไม่น่าต่างกัน ถึงแม้ว่าภาพไดอาแกรมโครงสร้างเลนส์ทาง Sigma จะเคลมว่ามีชิ้นส่วน SLD แต่ Leica กลับไม่บอกอะไรนอกเหนือจากชิ้นเลนส์ ASPH. แต่เราก็เชื่อมั่นว่ามันคงไม่ต่างกันครับ น่าจะยก optic ของ Sigma มาทั้งดุ้นเลย ไม่อย่างนั้นคงทำราคาเลนส์ถูกขนาดนี้ไม่ได้

เลยสันนิษฐานกันว่าสาเหตุที่ภาพถ่ายออกมาได้ความแตกต่างแบบสะกิดให้รู้สึกได้คือ กล้องมันคุยกับเลนส์ได้ในระดับที่สนิทกันรู้ใจกันครับ ไม่ใช่ว่า SL2-S ไม่คุยกับ Sigma นะครับ มันคุยกันแต่มันไม่สนิทกัน คุยกันไปตามหน้าที่เพื่อนร่วมงาน พอเป็นพิธีตาม L mount กำหนดนั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรบกพร่อง แต่ข้อมูลเลนส์มันไม่ได้มาด้วย ในขณะที่เลนส์จาก Leica คุยกันสนิทสนมกับกล้องเลย รู้นิสัยใจคอกันดี รู้ว่าชอบอะไร มีข้อจำกัดอะไร ข้อจำกัดทั้งปวงจึงถูกจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่ในกล้อง ภาพที่ออกมาจึงแตกต่างกัน เราไม่ทราบว่าถ้าเอา Sigma 24-70 ไปใส่กล้อง Sigma เองจะคุยกันได้ระดับไหน แล้วภาพจะออกมาเป็นอย่างไร (เพราะไม่มีกล้อง Sigma ในมือ) พอเอามาทดสอบกับ Leica SL2-S ตัวเดียวมันก็ออกจะเป็นการทำร้าย Sigma ไปหน่อย เพราะกล้องเขาไม่ยอมคุยด้วยเลยทำให้เลนส์เหมือนจะดูด้อยกว่า Leica ไปทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่ว่าโครงสร้างเหมือนกันทุกประการ

ภาพทั้งหมดผมชอบถ่ายภาพ RAW เอาไฟล์ .DNG มาทำต่อในคอมพิวเตอร์ ก่อนหน้านี้พบว่าไฟล์ที่ถ่ายด้วยเลนส์ Sigma 24-70 f2.8 DG DN Art มาสด ๆ มีความคลาดทรงกลมค่อนข้างมาก ขอบภาพเบี้ยวไปเบี้ยวมาและขอบภาพไม่ค่อยคมเท่าไรโดยเฉพาะที่มุมกว้างสุด ต่อเมื่อมาจัดการ Lens profile ใน LR แล้วจึงเรียบร้อย แต่ไฟล์ที่ได้จาก Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH. นั้นเรียบร้อยมาเลยตั้งแต่แรก ไม่มีขอบเบี้ยวขอบบูดมาให้เห็น ความคมชัดก็ดีทั่วทั้งภาพ ถ้ามองเผิน ๆ อาจคิดไปได้ว่านี่ไง Leica เอาไปทำทั้งทีคุณภาพของภาพมันต้องต่างกันเซ่ ขนาดไฟล์ RAW ยังกริ๊บขนาดนี้ แต่เรื่องจริงแล้วมันคือเลนส์ส่งข้อมูลให้กล้องแล้วชดเชยปรับแก้ไขเรียบร้อยมา "ก่อน" ที่จะบันทึกเป็นไฟล์ RAW อีกครับ มันเล่นกันระดับนั้นเลย ดังนั้นจะเอาไฟล์ RAW อย่างเดียวแล้วมาเทียบกันก็ไม่ได้ละครับ ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Software ของมันก่อน ซึ่งเรื่องการปรับแต่งชดเชยความคลาดต่าง ๆ จากเลนส์ก่อนจะบันทึกเป็นไฟล์ RAW เรื่องนี้เคยได้คุยกับ Jeff Meechai มาตั้งแต่สมัย Fujifilm เปิดตัว X-pro1 มาโน่นละครับ ดังนั้นสิ่งที่เจ้าของกล้อง Leica ที่เลือกใช้เลนส์ Leica จะได้มาคือความสะดวกในการปรับแต่งที่มีการจัดการ Lens profile มาให้เรียบร้อยตั้งแต่ในกล้อง สมัยใหม่ ๆ มานี้ “ใช้กล้องยี่ห้ออะไร เลือกใช้เลนส์ยี่ห้อนั้น” น่าจะเหมาะสมครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนเป็นของแถมมาจากการใส่เลนส์ Leica Vario-Elmarit-SL 24-70 f2.8 ASPH.คือกล้องเปิดติดพร้อมใช้เร็วขึ้น อ่านไม่ผิดครับ มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาใช้เลนส์ Sigma เวลาเปิดกล้องจอภาพมันจะดำมืดไปสักพักนึง (เหมือนให้เวลากล้องกับเลนส์ทักทายกัน) ทำให้พลาดจังหวะการถ่ายอยู่เนือง ๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นปกติของกล้อง SL2-S เกือบด่ากล้อง แต่พอเปลี่ยนเลนส์เป็น Leica ปุ๊บ กล้องเปิดเร็วขึ้นมากอาการจอดำที่ว่าไม่มีให้เห็น ต้องรีบกลับไปขอโทษขอโพยกล้องกันเลยทีเดียว


ไล่ f2.8 f4 f5.6 f8 f11 f16 f22 กันครับ ดาวน์โหลดไปซูมดูได้


ไล่ f2.8 f4 f5.6 f8 f11 f16 f22 กันครับ ดาวน์โหลดไปซูมดูได้


โหลดภาพใหญ่ไปซูมดูกันได้นะครับที่ f16 กับ f22 จะเห็นได้เลยว่าที่ f22 มี Diffraction พอสมควร รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ บนหน้าไดโนเสาร์หายไป



สรุปว่าถ้าคุณยอมจ่ายเงินแพงกว่า 3 เท่า เพื่อซื้อเลนส์ Leica ยัดไส้ Sigma สำหรับเอาไว้ใช้กับกล้อง Leica อนุกรม SL จะได้อะไรมาบ้าง

1. บอดี้และฮูดทำจากโลหะ ซีลป้องกันสภาพอากาศ

2. เปิดกล้องพร้อมใช้งานได้ไวขึ้น

3. ระบบออโต้โฟกัสรวดเร็วมากขึ้น

4. ความสะดวกในการจัดการแก้ไขไฟล์ RAW และโปรไฟล์ของเลนส์ ได้รับการแก้ไขมาพร้อมในไฟล์ RAW

รีวิวนี้ก็ขอให้เป็นข้อมูลกันไว้สำหรับท่านที่เกิดอาการคัน หรือคิดว่าเลนส์มันเหมือนกันเป๊ะ ๆ ไม่มีอะไรดี ผมเชียร์ให้ไปทดลองใช้ทดลองเล่นกันครับ เรื่องพวกนี้ยิ่งได้ลอง ยิ่งสนุก ^_^ สวัสดีครับ


ดูกันให้ชัด ถ้าเปิด f2.8 ถ่ายใกล้สุดจะเห็นความฟุ้งอยู่บ้างเล็กน้อยครับ




ปิดท้ายด้วยภาพจากเลนส์ตัวนี้ ที่เอามาแต่งภาพเล่นต่อตามใจชอบครับ



Comments


bottom of page