"Leica SL ในปี 2020 ยังน่าเล่นอยู่ไหม ซื้อได้รึเปล่า"
หลายคนได้ลองเล่นได้เป็นเจ้าของกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ Leica SL2 ที่ออกมาในปี 2019 ที่ผ่านมานะครับ แน่นอนว่ามันใหม่ สด ทุกอย่างดีกว่าหมด (บางคนบ่นเรื่องจุดรบกวนในภาพบ้างอันเนื่องมาจากจำนวนพิกเซลที่ได้ก็ว่าไป) แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนครับที่จด ๆ จ้อง ๆ ว่าอยากจะเอา SL2 แต่ราคามันยังแรงอยู่มาก จึงมีความคิดว่าหวด SL ตัวแรกมาเล่นก่อนชิล ๆ ดีไหม วันนี้เรามาเล่าสู่กันฟังครับ
Leica SL (typ601) + Lumix S 24-105 f4 macro O.I.S.
เป็นเรื่องแปลกดีเหมือนกันที่ผมมารีวิวกล้องที่ออกมาสี่ซ้าห้าปีและตกรุ่นไปแล้วอย่าง Leica SL (typ 601) ตัวนี้ (ช่วงนั้นไลก้ามีความเพี้ยน ๆ ใส่ typ (type) มาทุกรุ่นแทนที่จะเป็นตัวเลข เราเลยได้เห็น Leica M8 M9 แล้วคั่นด้วย M (typ 240) ก่อนจะมาเป็น M10 ในอีกรุ่นหนึ่ง) ก่อนจะไปเอา SL มาลองเล่นกัน ผมก็พยายามถามเพื่อน ๆ ในวงการกันก่อนหลาย ๆ คนว่าเคยเจอปัญหา หรือได้ยินว่าใครมีปัญหากับเจ้า Leica SL ตัวนี้ไหม แต่ก็พบว่า 100% ไม่เคยมีใครเจอปัญหาหรือได้ยินว่าใครเคยมีปัญหากับเจ้า SL ตัวนี้เลย ได้ยินแต่ชื่อเสียงว่าเป็นกล้องที่มีความเชื่อถือได้สูง ไม่ค่อยงอแง แล้วตอนนี้ราคาก็ร่วงลงมาจนน่ารักน่าชังแล้ว เรามาดูกันว่าปัจจัยอะไรที่บ่งบอกว่า Leica SL ยังน่าเล่นแตกต่างจาก SL2 กันบ้าง
Leica SL (typ601) + Lumix S 24-105 f4 macro O.I.S.
ราคา แน่นอนครับว่า SL ของใหม่เมื่อตอนต้นปี 2020 ยังพอหาได้ในราคาแสนต้น ๆ แต่ตอนนี้มือหนึ่งหมดไปแล้วราคามือสองก็ร่วงลงมาก มองหาดี ๆ 6 หมื่นกว่า ๆ ก็น่าจะหาได้แล้วครับ
ความใหญ่ของไฟล์ภาพกำลังดีที่ 24 ล้านพิกเซล สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปผมว่าความละเอียดเท่านี้กำลังดีแล้วนะครับ
User Interface แบบ S ปุ่มกดแบบเรียบง่ายไม่มีป้ายบอกชื่อปุ่ม และสามารถปรับแต่งเองได้หมดว่าจะให้เป็นปุ่มอะไร ไม่เหมือนกับ SL2 ที่ UI และปุ่มต่าง ๆ ออกมาเหมือน Leica M (เข้าใจไปเองว่าคนเล่น SL จะเป็นพวกเล่น M ด้วย มากกว่าคนที่มี S แล้วจะมาเล่น SL) แต่ส่วนตัวผมชอบเรื่องการออกแบบปุ่มของรุ่นนี้มาก ๆ ครับ
มี GPS สำหรับระบุพิกัดของภาพในตัว อันนี้แล้วแต่ใครจะใช้หรือไม่ใช้นะครับ
Leica SL (typ601) + Sigma 70 f2.8 Macro Art ลองมาโครคม ๆ กับเลนส์ซิกม่าครับ
ผมได้ลองเอา Leica SL มาเล่นติดมืออยู่สักพักหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่เคยจับ SL มาก่อน เล่นมาแต่ M โดยมีอานิสงค์พลพรรคเลนส์ L mount มาจาก Sigma fp อยู่บ้าง ผลที่ได้มันน่าประทับใจอยู่นะครับทั้งคุณภาพการประกอบ การจับถือ ความรู้สึกและความนิ่งเวลากดชัตเตอร์ ความแม่นยำและความเฟิร์มของปุ่มกดต่าง ๆ ในเรื่องพวกนี้ไลก้าทำมาดีมากครับ กล้องอายุ 6 ปีแล้วยังสู้ เรื่องวัสดุบอดี้ ความหนักแน่นยังลุยได้ ถามว่าหนักไหม ก็ต้องตอบว่าหนักมากครับ ข้อนี้แทบจะเป็นประเด็นที่ 2 รองจากเรื่องราคาที่ทำให้หลายคนถอย ไม่แตะไม่เล่น SL เลยครับ
กล้องหนักแค่ไหน ถือไหวหรือไม่ ถามใจดูครับ... ถามว่าผมถือไหม ตอบเลยว่าไม่ถือครับ ฮ่ะๆๆ
แต่อย่าลืมครับว่ามันเป็นกล้องที่ออกมานานแล้ว คุณภาพของไฟล์ภาพมันยังเป็นของสมัยนั้น สู้กล้องสมัยใหม่ ๆ ไม่ได้ครับ เอาแค่ Sigma fp ก็ไฟล์ดีกว่ามากแบบชัดเจนครับ ต้องถามใจตัวเองดี ๆ ว่าจะเอาไปใช้อะไรมากกว่าครับ กล้องสมัยนี้กดมามันได้ภาพหมด แล้วแต่ว่าเราจะเอามาขุดดูดีเทล หรือจะเอาคาแรกเตอร์ภาพ หรือเอาความสุขความสนุกที่ได้จับมันถ่ายครับ เท่าที่ได้ลองเล่น Leica SL ในปี 2020 ก็พบว่าคุณภาพของภาพมันในปี 2020 ก็เริ่มเห็นลิมิตละครับ เมื่อเราเคยเห็นภาพที่ดีกว่ามาแล้วเราจะไม่สามารถกลับไปมองภาพที่ “หย่อน” ลงไปได้ ฮ่ะ ๆ ๆ เรียกว่ากล้องสมัยใหม่นี่ กด อย่างเดียวครับ เดี๋ยวสวยเอง แต่กับ SL มันยังต้องใช้ประสบการณ์การถ่ายภาพอยู่ในระดับนึง แสงที่ดี เวลาที่เหมาะ มันจะได้ภาพดีครับ ไม่อย่างนั้นถ้ากดเล่น ๆ ไปเรื่อยก็เน่า ๆ ได้นะครับ
Leica SL (typ601) + Lumix S 24-105 f4 macro O.I.S.
ภาพที่ได้จาก SL จะรู้สึกถึงความอุ่น ๆ กว่าปกติหน่อย แต่ข้อดีคือสีไม่ถูก Boost ให้สดเกินจริงแต่อย่างใด สีสัน ความตรง ความสุขุมของสียังคงตรงแน่วอย่างที่ไลก้ารักษาข้อดีนี้มาได้ตลอดนะครับ ส่วนเรื่อง Dynamic range ส่วนตัวผมว่าส่วนสว่างมันหายง่ายไปนิดนึงครับ ดึงลงไม่ค่อยไหว แต่ขุดพอได้มากกว่า Noise บาน (สมัยก่อนคงว่าดี แต่เดี๋ยวนี้บังเอิญมีของดีกว่า) ภาพ JPG ให้อารมณ์ไลก๊าไลก้า คือสีตรงแต่คอนทราสต์แรงมาก ส่วนมืดจม รายละเอียดหาย ทำนองนั้นนะครับ ใครเคยเล่นมาจะเข้าใจ
Leica SL (typ601) + Lumix S 24-105 f4 macro O.I.S. เรื่องสีทองหรือโลหะแวววาวยังไว้ใจไลก้าได้ครับ
ก่อนหน้านี้ผมได้ลองเล่น Sigma fp มาระยะเวลาหนึ่ง พร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจใช้ Electronic shutter ล้วนของ fp นอกเหนือจากอารมณ์ที่ได้จากเสียงชัตเตอร์แล้ว มันมีปัญหาเรื่อง Banding ในที่แสงประดิษฐ์ และ Rolling shutter ตามมาด้วย คนเลยออกมาวิจารณ์กันเยอะ พอมาลองเล่น SL ตัวนี้มันสามารถเลือกได้ครับ ว่าจะใช้ Mechanic shutter หรือ Electronic shutter ไม่ใช่เพื่อเอาเสียงเท่ห์ ๆ นะครับ แต่ Mechanic shutter มันไม่มีปัญหาเรื่อง Banding กับ Rolling shutter แต่มันดันมีปัญหาเรื่อง Shutter shock มาแทน ผมเจอกับตัวก็ว่า ถ่ายภาพมาทำไมมันดูภาพสั่นนิด ๆ แบบน้อยมาก ๆ นะครับ ดูภาพเต็มจอในคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเห็นได้ ต้องซูม 100% จะชัดเจน (ผมเชื่อว่าบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพมันไม่ชัดเต็มประสิทธิภาพของมัน แต่คนเล่นกล้องอย่างเรา ๆ มันติดซูมดูภาพเสียแล้ว) SL ก็เจอปัญหานั้นครับ ก็จำเอาไว้ปรับ Shutter mechanism ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ก็แล้วกันครับ สำหรับใครมือใหม่ เก็บหอมรอมริบถอย SL มือสองไปเล่น แล้วเห็นว่าภาพไม่ชัดก็ไม่ต้องตกใจครับ กล้องคุณไม่ได้เสีย มันเป็นอาการ Shutter shock นี่เอง
Leica SL (typ601) + Lumix S 24-105 f4 macro O.I.S.
อย่างไรก็ตามอย่างหนึ่งที่สำคัญต่อเอกลักษณ์ของภาพจาก Leica SL คือเลนส์ครับ คาแรกเตอร์มันผันไปได้ตามเลนส์ค่อนข้างมาก แตกต่างจากยี่ห้ออื่น เช่น Fujifilm ที่คงเอกลักษณ์ของตนเองชัดเจนแม้ว่าจะแปลงเลนส์ยี่ห้ออื่นมาใส่ มันทำให้เล่นได้สนุกครับ เอาเลนส์โน่นนี่มาใส่ได้สารพัด ความน่ารักจุกจิกอีกอย่างของ SL คือมันมีจอ LCD แสดงข้อมูลด้านบนของกล้องครับ กล้องตัวไหนมีจอนี้จะได้ใจผมไปง่ายมากเลย เพราะติดมองมันตั้งแต่สมัย SLR โน่น ซึ่งในกล้อง Mirrorless สมัยใหม่ ๆ มีให้เห็นได้ไม่บ่อยนัก
Leica SL (typ601) + Voigtlander Nokton 50 f1.2
ผมว่า Leica SL มันทำเพื่อการใช้งานจริงจัง หลายปีที่ผ่านมาคนได้ภาพดี ๆ จากกล้องตัวนี้เยอะมาก ๆ ถ้านึกย้อนกลับไปในปีที่มันออกมันคงเจ๋งมากครับ เพียงแต่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของปัจจุบันแล้วเท่านั้นเอง ผมมองว่าคนเล่น SL กับคนเล่น M นี่คนละกลุ่มคนละพวกกันเลยนะครับ บางคนจึงต้องมีทั้ง M และ SL สรุปว่าถ้าอยากจะเล่น เล่นได้ครับ ผมว่าความคงทนมันยังคงใช้งานได้อีกนาน แต่อย่าคิดมาเล่น SL เพราะต้องการภาพแบบไลก้า ประเด็นนี้ต้องถามกันดี ๆ ก่อนนะครับ ว่าคุณคิดว่าภาพแบบไลก้าคืออะไร เพราะคาแรกเตอร์ภาพส่วนหนึ่งก็ต้องแล้วแต่เลนส์ครับ SL ให้ภาพดี แต่ลักษณะภาพเป็นคนละอย่างกับ M นะครับ อย่าคาดหวังว่ามันจะออกมาเหมือนกัน อยากได้ภาพแบบ M ก็ต้องเล่น M ครับ ^_^ กระเป๋าฉีกกันต่อไป สวัสดีครับ
Leica SL (typ601) + Sigma 100-400 f5-6.3 Contemporary
Comments