เป็นที่ทราบกันดีกว่า Adobe lightroom (LR) เดี๋ยวนี้ขายกันเป็นรายเดือนแบบถูกที่สุดก็เดือนละ 356 บาท ตกปีละ 4,272 บาท ถ้าคนได้ใช้บ่อย ๆ ใช้ทำงานก็คงคุ้มค่าอยู่ เพราะเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่ UI คุ้นมือกันแทบทุกคน ส่วนตัวผมใช้ของแท้ที่แถมมากับกล้อง Leica สมัยก่อนเป็น Lightroom 5.7 ซึ่งก็ยังใช้ได้ดีและยังใช้อยู่กับกล้อง Leica จนปัจจุบัน แต่ปัญหาคือเมื่อได้กล้องโซนี่มา ไฟล์ RAW ของโซนี่รุ่นใหม่ ๆ LR รุ่นเก่าเปิดไม่ได้เลย ทีนี้ก็เสียโอกาสครับ ครั้นจะซื้อแบบรายเดือนก็เกรงว่าจะใช้ไม่คุ้ม เลยได้ทดลองโปรแกรมต่าง ๆ ดูครับ ทั้ง Capture one และ Luminar ตัวนี้ที่วันนี้จะพูดถึงกัน ปกติก็ไม่ได้แต่งภาพอะไรมากนะครับ เน้นดูคาแรกเตอร์ของภาพมากกว่า แต่คราวนี้ได้ลองโปรแกรมใหม่ก็ลองเล่นลองแต่งกันไปให้สุดดูครับ
เจ้าตัว Capture one ผมว่าไม่เลว โปรแกรมทำงานเร็ว ปรับได้ดี คุณภาพของภาพดีมาก เนื้อภาพเผลอ ๆ ดีกว่า LR เสียอีก มันมี Version free สำหรับ Sony ผมลองโหลดมาใช้ แต่การใช้งานไม่คุ้นชินเลยครับ ปรับโปรไฟล์ต่าง ๆ ยังเมาอยู่ ต้องการเวลาปรับตัวสักระยะ และถ้าใครจะจัดตัวโปรก็ต้องเตรียมเงินไว้เกือบหมื่น จริง ๆ เจ้าตัว Capture one ณ เวลานี้ผมไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเท่าไร เพราะเป็นโปรแกรมดัง มาแรง เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ถัดจาก LR มีคนรีวิวไว้ค่อนข้างมากแล้วครับ วันนี้ผมอยากจะพูดถึงอีกโปรแกรมหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนใช้ไม่ค่อยมีรีวิวภาษาไทยมากกว่า คือเจ้า Skylum Luminar ครับ เป็นโปรแกรม post process และแต่งภาพอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจดีเหมือนกัน
การทำงานไม่ยากครับ มีระบบ Library เหมือนโปรแกรมตกแต่งภาพตามสมัยนิยม (ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้ใช้ครับ ทำเสร็จก็ลบ) การปรับตั้งพื้นฐาน มีมาให้ครบถ้วน อาทิ White balance (Temperature/Tint), Exposure, Contrast, Highlights, Shadows, Whites, Blacks, Clarity, HSL, Vignette เหมือน LR แทบจะทุกอย่าง แต่มีหัวข้อที่แตกต่างออกไปเช่น Image Radiance, Details Enhancer, Matte Look พวกนี้ครับ เรียกว่าในเบื้องต้นแทบจะทดแทนกันได้ครับ แต่ก็ต้องใช้เวลาทดลองของที่จัดมาต่างจาก LR หลายตัว Luminar ในส่วนของพวก Spot removal ยังทำงานสู้ LR ไม่ได้ครับ ผมไม่แน่ใจนะครับ ผมอาจใช้ไม่ถูกแนวทาง ส่วนตัวผมว่า LR จัดการเรื่องนี้ได้สะดวกกว่ามากครับ
เอาอย่างนี้ครับ ภาพรวมเจ้า Luminar นี้มันมีทีเด็ดตรงที่มันใช้ระบบการแต่งภาพเป็น Layer แยก Layer ทำ Mask edit ได้เป็นส่วน ๆ ไม่ชอบก็ลบหรือปิดการแสดงผล Layer นั้น ๆ ไป
Luminar ใช้ระบบการทำภาพตั้งค่าแต่ละเรื่องตามสิ่งที่มันเรียกว่า Filters ให้เราเลือกเพิ่ม ๆ เข้าไปในภาพครับ ไม่ใช้อะไรก็ไม่ต้อง add เข้ามา ต่างจาก LR ที่มีโชว์ไว้หมด เพราะ Filters พวกนี้ของ Luminar มันมีมากมาย ตั้งแต่เบสิกพื้นฐานแบบ LR เช่น Structure Tone Vignette B&W แล้วยังมีพวก AI sky enhancer และพวก Accent AI filter ซึ่งเป็นอะไรที่อัตโนมัติมาก ๆ เข้ามาช่วยครับ เรียกว่าคนไม่ต้องมีพื้นฐานการแต่งภาพ ความรู้ความเข้าใจค่าโน่นนี่ ก็สามารถใช้งานโปรแกรมนี้แล้วได้ภาพดี ๆ ไม่ยากครับ นอกเหนือจาก Filters ขั้นพื้นฐานแล้วยังมี Filters มหัศจรรย์อีกมากมายที่อำนวยความสะดวกให้นักแต่งภาพครับ เช่น Sunray, LUT mapping, Fog, Dramatic etc. นักแต่งภาพสามารถจัดการภาพให้แฟนตาซียังไงก็ได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งตรงนี้ครับ มันเป็นดาบสองคม ผู้ใช้มือใหม่จะปรับอะไรต่ออะไรได้ง่ายมาก ๆ แต่อาจจะขาดความรู้ความเข้าใจพื้นฐานว่าอะไรคืออะไร ถ้าอนาคตจะไปทำงานแบบมืออาชีพอาจต้องเรียนรู้เพิ่มเติมกันใหม่
Original จากกล้อง Convert ผ่าน LR
สายแต่งภาพด้วยความรู้คงก่นด่า แต่ผมว่าโปรแกรมนี้เจ๋งสำหรับมือใหม่ครับ เพราะมันมีฟิลเตอร์สำเร็จรูปมากมายให้เลือก บางอันก็ใช้ได้ดีเลยครับ บางอันก็เอาไปแต่งโน่นนี่ต่อนิดหน่อย ซึ่ง Preset พวกนี้ก็มีขายกันต่อในโปรแกรมให้บันเทิงไป ผมส่อง ๆ ดู ไม่ค่อยเห็นอะไรที่มีประโยชน์ มันก็เหมือนเราไปก๊อปโทนคนอื่น แค่ที่มันแถมมาก็โอเคแล้วครับ ส่วนคนที่ใช้เป็นจริง ๆ ก็จัด Filters แบบต่าง ๆ ของมันมานี่แหละ ทำได้หมดทุกอย่าง เหมือนคนเก่ง ๆ LR ก็ไม่ต้องพึ่ง Present คนอื่น ราว ๆ นั้นครับ
ลองเทียบภาพที่ได้กับ Filters ที่ใส่เข้าไปนะครับ
4 ภาพแรกใช้ present ที่โปรแกรมมีมาให้ ภาพสุดท้ายปรับเล่นเองครับ
ข้อเสียที่หนักหนาสาหัสของ Luminar เลยนะครับ คือมัน
ช้าาาาาาาาาาา...
มากจริง ๆ ผมไม่ทราบทางฝั่ง PC แต่ Macbook ใช้ LR หรือ Capture one เร็วกว่ามากทั้งการโหลดไฟล์และการ Export ไฟล์ครับ แถมความเลวร้ายคือ ระหว่างที่กำลัง export เราจะทำไฟล์อื่นต่อก็ไม่ได้ ต้องรอมัน export เสร็จเสียก่อน ต้องทำให้เสร็จให้หมดแล้ว export ทุกภาพรวดเดียวถึงจะโอเค อันนี้ไม่ชอบจริง ๆ ครับ ส่วนถ้าถามว่าจะเอามาแทน LR ได้ไหม ผมว่ามันทำได้ใกล้เคียงกันครับ แต่ติดเรื่องการจัดการใน Details ของภาพที่ขั้นตอนมันซับซ้อนเสียเวลากว่า LR และความช้าของโปรแกรมที่ฝรั่งก่นด่ากันเป็นวรรคเป็นเวรแต่ Skylum ก็แก้อะไรไม่ได้สักที
สุดท้ายครับที่มานั่งเขียนรีวิวเรื่องนี้ก็เพราะว่ามันสนุกดี อย่างไรก็ตามพี่ ๆ น้อง ๆ ที่เคยคุ้นถ่ายภาพร่วมกันมาหลายต่อหลายปีต่างพูดกันว่า มันเบื่อครับ แต่งภาพเวอร์ ๆ ไปมันเตะตามันขายได้ เห็นแล้วตื่นเต้น แต่ภาพเหล่านั้นมันจะเบื่อเร็วครับ หลายท่านกลับไปหาความ pure ของภาพ คาแรกเตอร์ของกล้องและเลนส์ที่ถ่ายมาแล้วได้เลย ไม่เพอร์เฟคแต่ได้อารมณ์ บางท่านกลับไปว่ากันถึงเนื้อหาของภาพ กว่าจะกดแต่ละแชะต้องคิดแล้วคิดอีก บางท่านแต่งภาพทำภาพ แต่ทำอย่างไรให้มันพอเหมาะพอดี คนดูได้นาน ดูแล้วไม่รู้ว่าแต่ง จริง ๆ เราแต่งภาพก็เหมือนสาว ๆ แต่งหน้าแหละครับ จะจัดแค่ไหน จะงิ้ว จะเนียนอย่างไร ถ้าทำใจกว้าง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้ไม่เคยมีผิดมีถูกนะครับ แต่เรื่องที่ต้องทำคือ สุขภาพกาย สุขภาพผิวหน้า ย่อมเป็นพื้นฐานที่ดีที่ต้องมาก่อน การถ่ายภาพก็เหมือนกันนะครับ สวัสดี