top of page

Leica Summicron-T 2/23 ASPH.

Updated: Aug 24, 2023

“คมดีสีโมเดิร์น”

ผมมีโอกาสได้ลองเลนส์ Leica Summicron-T 2/23 ASPH. ที่เปิดตัวมาพร้อมกับกล้อง series Leica T ตั้งแต่ปี 2014 ต้องออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ใช่มืออาชีพในการรีวิวโดยเฉพาะเลนส์ออโต้โฟกัสสมัยใหม่พวกนี้ อ่านกันเล่น ๆ คิดเสียว่าเป็นแค่ความเห็นของคนใช้อีกคนก็แล้วกันนะครับ

สำหรับใครที่สนใจเล่นกล้อง Leica แล้วคิดจะเริ่มจาก Leica T ซึ่งตอนนี้ราคามือสองถูกมาก ๆ จนน่าตกใจแล้วล่ะก็ ต้องอ่านบทความนี้เลยนะครับ (สำหรับผู้ใช้ไลก้าอยู่แล้วก็ข้าม 2 ย่อหน้านี้ไปได้ครับ 555) จะได้ทำความเข้าใจร่วมกัน กล้อง Leica นั้นโด่งดังมาก ๆ ด้วย series M ครับตั้งแต่สมัยกล้องฟิล์มเมื่อปี ค.ศ. 1954 เป็นต้นมา ซึ่งไลก้าเองก็พยายามทำกล้องใน series อื่น ๆ ออกมานะครับทั้ง Leica R จนไปถึง Leica CL และกล้องคอมแพคแบบต่าง ๆ ฯลฯ แต่ M นี่ดังสุด ทีนี้พอเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัล ไลก้าก็ทำกล้องดิจิทัลนำร่องออกมาหลายต่อหลายรุ่นนะครับ ที่ยังพอดัง ๆ แล้วคนหาเก็บสะสมเป็นของเก่ากันอยู่บ้างก็พวก Leica Digilux โดยเฉพาะตัวที่ทำร่วมกับ Panasonic L1 จำได้เลา ๆ ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์สองค่ายนี้ จนได้มีเลนส์ Leica บนเม้าท์ M4/3 ให้ได้เล่นกัน แต่กล้อง Leica ดิจิทัลที่ดังสุดก็ไม่พ้น series M อยู่ดีครับ เพราะได้อานิสงค์จากเลนส์เก่าที่ (โคตร) ดี มีคาแรกเตอร์หลากหลาย มีฐานลูกค้าอยู่มาก และอีกส่วนหนึ่งคือบอดี้สุดคลาสสิก แมคคานิกสุดเจ๋งเมดอินเจอมัน แต่ Leica เองก็ยังพยายามออก series อื่น ๆ มาอยู่เรื่อย (นอกเหนือจากที่ทำร่วมกับยี่ห้ออื่น) ได้แก่ Leica S Leica X Leica T Leica SL Leica Q ซึ่ง series เหล่านี้จะผลิตในเยอรมันเท่านั้น แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่ว่ามานี่ก็ยังไม่มีตัวไหนฮอตและดังเท่า M เลย

เขียนบอกกันตรงนี้ชัด ๆ เลยครับ ความเห็นของผมคือ ถ้าใครอยากลองเล่นกล้อง Leica อยากลองเสพเสน่ห์ของภาพ ความป๊อบ ความโกลว คอนทราสและอารมณ์ของภาพ ต้องเล่น Leica M เท่านั้น เพราะเลนส์ที่มีหลากหลายมาตั้งแต่โบราณ ทุกวันนี้หาข้อมูลและตัวอย่างภาพไม่ยาก เลนส์ M เหล่านี้แหละครับ ที่หลาย ๆ คนกล่าวว่ามันมีเวทย์มนตร์ ภาพที่ได้จาก Leica M จะไม่เหมือนกล้องยี่ห้ออื่น ๆ ในท้องตลาดเลย ส่วน series ที่ทำได้ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น Leica SL ที่ใส่เลนส์ M ผ่านอแดปเตอร์ได้ ส่วนเลนส์ของ SL เองผมยังไม่มีโอกาสได้ลอง ขออนุญาตไม่พูดถึง Leica Q ก็ยังไม่เคยได้ลองจริงจัง รู้แต่มันดีมาก แต่คาแรกเตอร์ยังไงยังไม่รู้ไม่พูดถึงนะครับ อย่างไรก็ตามผมได้เล่นทั้ง Leica T และ Leica X มาเยอะ กล้องพวกนี้จะให้คาแรกเตอร์ของภาพแตกต่างออกไป แตกต่างแบบมาก ๆ เลยนะครับ หลาย ๆ คนที่เล่นไลก้าจะทราบว่าลักษณะของเลนส์ไลก้าเรามักจะแบ่งมันออกได้สองประเภทใหญ่ ๆ คือ แบบที่ให้ภาพ Classics look กับแบบที่ให้ภาพ Modern look ซึ่ง “ผมว่า” คนเล่นไลก้า M ส่วนใหญ่มักถวิลหา Classics look มากกว่า ภาพมันมีน้ำมีนวล มีเนื้อภาพที่ชัดเจน มีเวทมนตร์ เลนส์ไลก้ารุ่นใหม่ ๆ ที่เป็น Modern look มักถูกให้ความเห็นว่าคมเกินไป (แน๊ะ มีแบบนี้ด้วย ถ้าใครมาจากสาย DSLR ต้องขัดใจแน่ ๆ) คอนทราสสูงเกินไป แข็งเกินไป ซึ่งตรงนี้มันร่วมกับการประมวลผลไฟล์ของกล้องด้วยครับ ผมเคยมี M8 ถ่ายมาเรื่องคอนทราสเรื่องภาพผมโอเคนะ แต่พอมาใช้ M (typ240) แล้วช็อค ไฟล์ JPG รายละเอียดส่วนมืดหายเกลี้ยง ภาพคอนทราสสูงเวอร์ ๆ สุดท้ายต้องพึ่งพาไฟล์ RAW ถึงตอนนี้ใช้ M edition 60 ถ่ายแต่ไฟล์ RAW ได้อย่างเดียวจึงหมดปัญหาไป

ไฟล์ RAW ของ Summicron-T 2/23 ASPH.

ผมเคยมีทั้ง Leica X และ Leica T ไฟล์ JPG จากกล้องสองตัวนี้คอนทราสสูงมากนะครับ เป็น Modern look จ๋าเลย ส่วนมืดจมไปหมด ดูเผิน ๆ มันดึ๋งดั๋ง แต่ดูลึก ๆ แล้วไม่ดี แต่ว่าเสน่ห์ของภาพมันมีอยู่บ้าง คือ การให้สีไม่สดจัดจ้าน สีค่อนข้างใกล้เคียงกับตาคนเห็นมาก ภาพมันจะดูมีคลาส แต่ถ่ายยากเป็นบ้า เอาภาพมาเรียงกับภาพจากกล้องยี่ห้ออื่น ๆ คือจืดไปเลย จ๋อยไปเลย ตรงนี้แหละที่สำคัญ เพราะหลายคนมักเริ่มต้นรู้จักยี่ห้อ Leica ด้วย series พวกนี้ แล้วพาลคิดว่าภาพเหล่านี้มันคือเอกลักษณ์ของไลก้า มันดูเจ๋ง มันดูอะไรก็ตามแต่จะอวยชัยให้พรกันไป เดี๋ยวจะเป็นความเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ก็ได้แต่บอกเอาไว้ในที่นี้ว่า ถ้าอยากลองเล่นไลก้า ให้ไปเล่น Leica M

ไฟล์ RAW ของ Summicron-T 2/23 ASPH.

อ้าว แล้วจะมี Leica T ไว้ใช้ทำไม ก็ตอบได้ว่ามันออโต้โฟกัสได้ ถ่ายง่ายสบายใจ เป็นบอดี้สำรอง ใส่เลนส์ M ได้ (แต่คาแรกเตอร์ไม่ได้เลย 555) แต่ด้วยเหตุที่เลนส์ของ Leica T มันออโต้โฟกัสนี่แหละที่ทำให้ได้ลองเลนส์ Summicron-T 2/23 ตัวนี้ที่จะรีวิวได้ดูกันนนนน (เข้าเรื่องได้สักทีหลังจากโม้มาร่วม 1,200 คำ)

Leica Summicron-T 2/23 ASPH. เปิดตัวมาพร้อม Leica T ด้วยน้ำหนักเพียง 154g เท่านั้น เบามาก ๆ เลนส์ 9 ชิ้น 6 กลุ่ม บอดี้ไม่ได้ดูแน่นตันแข็งแรงเหมือน M แน่ ๆ เลนส์ด้านในชิ้นเล็กนิดเดียวเอง ทำง่ายกว่าเลนส์ชิ้นใหญ่ตั้งเยอะ แต่ดันตั้งราคาขายซะแพง พลิกไปพลิกมา อ้าว made in Japan ไมใช่ Germany นะครับ เลนส์ตัวนี้มี 2 Aspherical surfaces โฟกัสใกล้สุด 30 ซ.ม. หน้าเลนส์ 52mm ประเมินรวม ๆ ก็เรียกได้ว่าเล็ก เบา ช่วงดี ติดกล้องไปไหนมาไหนสบาย ๆ ถ่ายสนุกกว่าเลนส์ซูม f แคบแน่นอน

สิ่งที่อยากจะเล่าสู่กันฟังสำหรับเลนส์ตัวนี้แบบไม่อวยนะ

- ถึงแม้ว่าเลนส์จะออกมาเมื่อ 2014 แต่คุณภาพการทำงานเมื่อเทียบกับในเวลานั้นบอกได้เลยว่า... ด้อย ออโต้โฟกัสถึงแม้จะเงียบกริบแต่ค่อนข้างช้า ช้าแบบ Fuji X-pro1 กับ XF 35/1.4 ก่อนอัพเฟิร์มแวร์นั่นแหละครับ โดยเฉพาะโหมด spot focus วืดวาดบ่อยโดยเฉพาะในที่แสงน้อย ผมว่าพอ ๆ กับเลนส์ของ Leica X2 เลยครับ ถ้าเป็นโหมดปกติก็จะดีขึ้นหน่อย วืดวาดน้อยลงเยอะ

- เลนส์ตัวนี้ระบุว่าโฟกัสใกล้สุด 30 ซ.ม. ซึ่งมันดูเจ๋งมาก เพราะถ่ายได้ใกล้ดี แต่ปรากฏว่ามันมีความโกง คือโกงค่ารูรับแสงจากสเป็คที่เราเข้าใจครับ เมื่อโฟกัสใกล้สุดที่ 30 ซ.ม. จะไม่สามารถถ่ายที่ f2 ได้ กล้องจะปรับรูรับแสงให้เป็น f2.8 โดยอัตโนมัติ เป็นข้อจำกัดในการออกแบบเหมือน Leica X (typ113) เลย เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจมาก แต่ก็ถ่ายได้ใกล้อะนะ

ไฟล์ RAW ของ Summicron-T 2/23 ASPH.

- และเรื่องของคุณภาพของภาพ เลนส์มันมีความคมใช้ได้นะครับ (ถ้าโฟกัสเข้าเป้า) ที่ f2 อาจเห็นความฟุ้งเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็ถืดว่าคมดีใช้ได้เลยครับ ด้วยความที่ Sensor มันเล็กขอบภาพก็ทำให้คุณภาพดีได้โดยไม่ต้องใช้แก้วชิ้นใหญ่มาก ขอบภาพเลนส์ตัวนี้ถือว่าดีเลยครับ จัดองค์ประกอบได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก

- ขาวดำจากไฟล์ JPG ผมว่าโอเคเลย ผมชอบแบบ High Contrast อารมณ์ภาพเหมือนตอนสมัยใช้ Leica X2 เป๊ะ ๆ

ไฟล์ภาพ JPG ขาวดำ high contrast

- เลนส์ตัวนี้ผมกะ ๆ เอาว่ามันน่าจะให้สีสดพอควร พอถ่ายไฟล์ JPG แล้วจึงออกมาใกล้เคียงกับที่มองเห็น ในขณะที่ลองใส่เลนส์อื่น ๆ จะต้องไปปรับ Saturation เพิ่มในกล้อง ถ่าย RAW มาก็สดใสดี อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเลนส์ที่ใช้สะดวกดีครับ ระยะนี้คูณ 1.5 ของ Sensor ขนาด APS-C ไปด้วยแล้ว ใกล้เคียงกับระยะ 35 มม.บนฟูลเฟรม ระยะนี้ตัวเดียวก็เที่ยวได้รอบโลกแล้วครับ

ไฟล์จาก JPG และ RAW สีต่างกันแบบนี้เลยครับ

จะว่าไปดูเหมือนไม่ค่อยมีข้อดีเลย 555 เดี๋ยวกลายเป็นว่ารีวิวไล่ลูกค้านะ ผมว่มันก็ดีตามมาตรฐานเลนส์ทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ ถ่ายภาพได้มาก็ดี คมชัดดี แค่ว่ามันไม่มีอะไรให้รู้สึกตื่นเต้นมากนักครับ ฝากภาพจากเลนส์ตัวนี้ไว้ให้ดูกันเล่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลครับ

ไฟล์จาก JPG นะครับ

สุดท้ายแล้วนึกถึงคำพูดที่มักเจอตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ ว่าเลนส์อะไรก็ถ่ายภาพให้สวยได้ อยู่ที่คนหลังกล้อง ผมจะฟันธงให้ว่าไม่ใช่ทั้งหมด เลนส์ดีก็ทำให้มีโอกาสได้ภาพในสถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่า เลนส์แต่ละตัวมันมีคาแรกเตอร์ ภาพที่ได้ก็อารมณ์ออกมาต่างกัน ใครจะเลือกซื้อกล้องและเลนส์ ผมจะย้ำอยู่เสมอเลย ให้ดูคาแรกเตอร์ของภาพเป็นอันดับแรก ส่วนถ้าใครสนใจจะเริ่มต้นกับ Leica ข้ามเลนส์ของ Leica T ตัวนี้ไปเลยครับ ไปหาเลนส์ M ตัวที่ราคายังไม่แรงมากมาเล่นกับ Sony series A7 ไปพลาง ๆ ก่อน จะเข้าถึงอารมณ์ของ Leica มากกว่าเยอะครับ สวัสดี

bottom of page