top of page

Nostalgia in Photography

Updated: Aug 24, 2023

มาคราวนี้อยากจะชวนคิดชวนคุยกันสนุก ๆ เสียหน่อยครับ ผมสังเกตว่าช่วงหลัง ๆ ที่เข้าไปเป็นสมาชิกตามกลุ่ม facebook ของกล้องยี่ห้อต่าง ๆ มักจะเห็นภาพสวยงามดึงดูสายตามากมาย เป็นภาพที่สวย แบบสวยจริง ๆ นะครับ ถ้าดูกันตามทฤษฎี ทั้งองค์ประกอบศิลป์ เทคนิคการถ่ายภาพ เทคนิคการ Post process เรื่องราวในภาพ นักถ่ายภาพสมัยนี้เก่งขึ้นมากจริง ๆ เก่งขึ้นจนคิดว่าอีกหน่อยคงไม่ต้องมีการจ้างช่างภาพกันแล้วก็คงได้ แต่ในภาพสวย ๆ เหล่านั้นเองก็มีสิ่งที่สะท้อนใจทำให้ได้คิดอยู่เหมือนกันครับ เป็นสิ่งที่ผมไม่อาจเข้าถึงหัวใจของนักถ่ายภาพแต่ละคน และจะไม่มีวันเข้าถึงด้วยครับ

...แล้วแกจะไปยุ่งอะไรกับเค้าาาาา...

555 ถึงแม้ว่าผมจะได้เล่าเรียนเรื่องเกี่ยวกับศิลปะ ทั้งเรื่องหลักการ ประวัติศาสตร์ และปฏิบัติวิชาชีพอยู่ในวงการที่เกี่ยวข้องกับสุนทรียภาพ (Aesthetics) ทั้งการออกแบบ และการสอนมาพอสมควร แต่ผมก็ยังคงไม่กล้าเอ่ยถึง หรือฟันธงสูตรสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องความงามได้ เพราะมันซับซ้อน ละเอียดอ่อน และมีความเป็นปัจเจกอยู่ในที ถึงแม้ว่าในโรงเรียนเราจะมีการเรียนการสอนเรื่องการรังสรรค์ความงาม แต่นั่นก็เป็นเสมือนการสอนเทคนิคการถ่ายภาพให้สวยตามหลักการเหมือนในตำรา เพื่อจะนำไปใช้ภายใต้จุดประสงค์ของการจัดแสดงภาพ หรือขายภาพ แต่ถ้าเราจะถ่ายภาพเพื่อจุดประสงค์ส่วนบุคคลแล้ว ทฤษฎีเหล่านั้นกลับมีน้ำหนักน้อยเหลือเกินครับ วลีอมตะที่ว่า Beauty is in the eyes of beholders ยังคงใช้อธิบายได้เสมอ เพราะส่วนหนึ่งของการรับรู้ความงามคือเรื่องส่วนบุคคล ที่สามารถรับรู้ความงามได้ทั้งจากสัญชาตญาณและประสบการณ์ ความรู้ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต ผมเห็นหลายต่อหลายบทความพยายามวิเคราะห์และอธิบายผลงานระดับ Master piece ของช่างภาพอาชีพต่าง ๆ ด้วยหลักการทางด้วยความงามและองค์ประกอบศิลป์ แต่เอาจริง ๆ ว่าผู้วิเคราะห์จะรู้หรือว่าช่างภาพเหล่านั้นเขารู้สึกอย่างไร คิดแบบนั้นจริง ๆ หรือไม่? ไม่เคยมีศิลปินตัวจริงคนไหนที่ไปยืนอธิบายผลงานของคนอื่นหรอกครับ

วันนี้ผมจะชวนพวกเราที่รักการถ่ายภาพ ทบทวนเรื่องสุนทรียภาพที่บางครั้งเราหลงลืมไป สุนทรียภาพทางการถ่ายภาพที่ลงลึกไปในหัวใจตัวเองกันดีกว่า...

เราทุกคนถูกครอบงำทางความคิดเชิงสุนทรียภาพด้วยทฤษฎีองค์ประกอบศิลป์มานานแสนนาน จนคนส่วนมากยอมรับและเห็นว่าเป็นความสวยงามของมหาชนไปแล้ว ถ่ายภาพมาองค์ประกอบแบบนี้ดี แบบนี้สวย แบ่งเป็น 9 ช่องแล้ววางจุดเด่นของภาพบริเวณจุดตัดจะทำให้ภาพน่าสนใจ สมดุล สี ผิวสัมผัส และเทคนิคต่าง ๆ อีกหลายสิบอย่าง ฯลฯ ถ้าทำผิดไปจากนี้แล้วจะไม่ดี ภาพจะไม่สวย จนหลาย ๆ คนยึดมั่นถือมั่นกับหลักการและวิพากษ์วิจารณ์ภาพอื่น ๆ อย่างรุนแรง ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวทางด้านสุนทรียภาพ จริง ๆ แล้วมันยังมีทฤษฎีอีกมาก (มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ) เลยครับ ที่ใช้อธิบายเรื่องการสร้างสุนทรียภาพ นอกจากนี้พวกแนวความคิดที่ Break the rule แอนตี้ทฤษฎีพวกนี้ก็ยังมีครับ แต่เอาเถิด มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบอธิบายสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอยู่แล้ว วันนี้อยากลองชี้ชวนให้พวกเราลองถ่ายภาพกันด้วย “ความรู้สึก” มากกว่าใช้การอธิบาย หรือความกังวลเรื่องเทคนิคต่าง ๆ กันครับ ตั้งวัตถุประสงค์กันใหม่ ว่าถ่ายภาพเป็นส่วนบุคคล ถ่ายภาพไม่ต้องหวังยอดไลค์ หวังคำชื่นชม หรือหวังจะเอาไปขาย ให้ถ่ายภาพเพื่อตัวเอง รับรู้เรื่องราว มีความพึงพอใจเป็นของตัวเราเอง ภาพก็จะมีความหมายและมีคุณค่าที่สูงมาก ทั้ง ๆ ที่มันอาจเป็นภาพที่ไม่สวยในสายตาคนอื่น ๆ เลยก็เป็นได้นะครับ เพราะฉะนั้น ในภาพถ่ายนอกเหนือจากการมีความสวยงาม มีเรื่องราว มีโมเมนต์ ที่แสดงให้เห็นได้แล้ว ยังมีความรู้สึกของผู้ถ่าย ณ ขณะนั้นฝังอยู่ในความทรงจำ ที่ไหน เมื่อไร กับใคร ความสุข ความทุกข์ ความกลัว โอกาสพิเศษต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งตอนถ่ายปวดขี้อยู่ก็ยังจำได้เลยครับ ความรู้สึกเหล่านี้มันจะถูกนำมาประมวลร่วมกับองค์ประกอบอื่น ๆ เวลาเราหยิบภาพนั้นกลับขึ้นมาดูอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นความประทับใจของเราคนเดียว รับรู้คนเดียว อธิบายให้ถ่องแท้ หรือหาทฤษฎีอะไรมารองรับไม่ได้ แต่มันฟินนะครับ ฟินมากกว่าการตั้งใจถ่ายให้สวย ๆ ตามกระแสนิยมเรียกยอดไลค์ ยอดขายมากครับ อย่าตะบี้ตะบันถ่ายรัวชัตเตอร์จนไม่ได้ทันได้ซึมซับบรรยากาศ ความรู้สึกถึงสภาพแวดล้อม ณ เวลานั้น ๆ ให้ซึมลึกเข้าไปในจิตใจ แต่ควรจดจำความรู้สึก ณ ขณะนั้นให้ดี ให้อิน เสียก่อนถ่าย แล้วภายหลังเราจะเรียกมันกลับออกมาได้ด้วยภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของคุณ

บรรยากาศนอกเต็นท์ ตอน 23:00 น. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ

ความรู้สึก ณ ขณะนั้นยังจำได้แม่น ความรู้สึกต่อแสงจันทร์ สายหมอก อากาศเย็น ๆ ที่ปะทะผิวกาย

กลิ่นสดใหม่ในอากาศที่ผ่านเข้าฆานวิญญาณ

หมาจิ้งจอกที่วิ่งหลบอยู่ในพุ่มไม้ เนื้อทราย เสียงหมาไนเห่าหอนอยู่ที่ไกลออกไป

สิ่งเหล่านี้...

ใครจะรู้...

นอกจากประสบการณ์ตรงของผู่ถ่ายภาพ ที่จะดึงมันออกมาหล่อเลี้ยงหัวใจในภายหลังด้วยตัวเอง

ผมไม่ได้พูดคำนี้มานานนนน

ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพนะครับ ^_^

bottom of page