top of page

The Leica M

Updated: Aug 24, 2023


โน้ตไว้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเราก็บ้าบอได้มากประมาณนี้ ไม่ต้องรีวิวเลยครับ มันเป็นเครื่องประดับที่ถ่ายภาพได้ เอาวัสดุทองเหลือง เอางานประกอบมือ เอาทำในเยอรมัน เอาเรื่องราวเรนจ์ไฟน์เดอร์มาเป็นจุดขาย ซึ่งรุ่นนี้ก็ไม่มี Bright frame แล้ว ใช้เป็นกรอบอิเล็กทรอนิกส์แทน ฟิลลิ่งของภาพส่วนมากลูกค้ามโนกันเองครับ เอาจริงๆ ถ่ายกล้องเลนส์อะไรก็ได้ฟีล โฟกัสมือหมุน ช้า ถ่ายต่อเนื่องไม่เร็ว ถ่ายมาแล้วอันเดอร์มากกว่าที่เห็นในจอหลัง ไฟล์ jpg ตัดรายละเอียดส่วนมืดส่วนสว่างมากเกินไป (แต่ใช้ดีกับเลนส์เก่า ๆ นะครับ แต่ถ้าใส่เลนส์ไลก้าแบบสมัยใหม่นี่คอนทราสหนักเลย รายละเอียดหายหมด ต้องปรับลดคอนทราสถึงจะพอใช้ได้) ฝุ่นก็เข้าง่าย เอาจริงคาแรกเตอร์ภาพ โดยเฉพาะ jpg เล่น Sony A7 ก็ใกล้เคียงมากๆครับ แต่แต่รายละเอียดส่วนสว่างมันนัวๆเว่อร์ไปนิ๊ดดดเดียวจริง ๆ ส่วน A7II ยังไม่เคยลองนะ Leica M ตัวกล้องเล็กกว่าพวก DSLR (กว้าง x ยาว x สูง แทบจะขนาดเท่ากันกับ Fujifilm X-pro1 เป๊ะๆ) ทว่าน้ำหนักเอาเรื่องอยู่ที่ 680 g ไม่รวมเลนส์ ถ้าใครจะซื้อมาห้อยเบา ๆ ปลิว ๆ ก็ลืมกันไปได้เลยครับ

บ่นมาซะเยอะแต่ทำไมไม่รู้ Leica M เป็นกล้องที่พกติดตัวไปทำงานบ่อยที่สุด (เพราะถ้าทิ้งไว้บ้านก็กลัวหาย หรือกลัวคนที่บ้านเอาไปขายถูก ๆ 555) และถึงแม้ว่าปริศนาภาพแบบ Leica 3D pop จะเริ่มคลี่คลายด้วยคำตอบเลา ๆ ว่ามาจาก Micro contrast จากทั้งกำลังแยกขยายของเลนส์และเซนเซอร์ แต่ก็ยังมีกล้องไม่กี่ยี่ห้อที่ทำออกมาได้ เช่น Sigma, Sony (ฟูลเฟรม), เลนส์นิคอนตระกูลนาโน เอามาถ่ายก็เด้งอยู่เหมือนกัน ฯลฯ แต่คนบางกลุ่มก็ยังหลงภาพจากไลก้าอยู่ดี คอนทราสหนัก ๆ แบบ black เยอะ ๆ วัสดุโลหะและดวงตาใสปิ้ง ๆ และหลายคนก็ยังชอบภาพขาวดำจากไลก้าอยู่ดี แต่เท่าที่ผมใช้มานะ Leica ที่เป็น CCD ก็ยังให้ภาพที่คมใส และภาพขาวดำที่เด็ดขาดกว่า Leica ที่เป็น CMOS อยู่ดีครับ แต่ Leica รุ่นที่เป็น CCD ข้อจำกัดและปัญหาเยอะเหลือเกิน สูบแบตทิ้งขว้าง ช้า ชัตเตอร์ดัง ปัญหาจุกจิกเยอะ ไม่รักจริงก็คบกันไม่ได้

Leica M (typ240) + Leica Summarit 35/2.5

Leica M8 + Leica Summarit 35/2.5

ผมได้ลองใช้ Leica ผ่าน ๆ มือมาหลายตัวอยู่ ทั้ง Leica (Panasonic) V-lux 20 ที่ทำในญี่ปุ่น และ Leica made in Germany ได้แก่ X2 M8 และ M (typ240)

V-lux 20 ไม่ต้องไปพูดถึงมันมากเรื่องคุณภาพของภาพ ที่เก็บไว้เพราะเป็นคอมแพ็ค Leica-Pana รุ่นสุดท้ายที่ Leica เขียนเฟิร์มแวร์ประมวลผลภาพเอง หลังจากนั้นจะใช้ Venus engine ของ Panasonic หมด

X2 (ตั้งชื่อไว้ว่า Laetitia) เป็นกล้องคอมแพ็คเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ 24/2.8 เซนเซอร์ขนาด APS-C กล้องตัวนี้ให้ภาพที่ดีมากครับ ช่วงเลนส์ที่ให้มาก็ไปเที่ยวตัวเดียวเอาอยู่เหมือนกัน

วัสดุอลูมิเนียมและการประกอบของกล้อง X2 ดีมาก ฟิลลิ่งดี เลนส์ใช้ดี ช่วงดี คมดี แต่ปัญหาคือโฟกัสช้าและพลาดบ่อยจนน่ารำคาญ อ่านรีวิวต่อกันได้ดังที่โพสไปก่อนหน้านี้

แต่สำหรับภาพ บอกเลยว่าชอบคาแรกเตอร์ภาพของ M8 (ตั้งชื่อไว้ว่า Baldr) มากที่สุด เพราะภาพที่ได้จาก CCD มันเป็นอะไรที่พิเศษ ความคม ความใส ความแน่น มันมีคาแรกเตอร์ชัด แต่ข้อจำกัดของ M8 ก็เยอะ ถึงความช้าของตัวกล้องอาจไม่ใช่อุปสรรคของคนรักกล้องถ่ายภาพแนวนี้ การที่ M8 สีเพี้ยน ถ้าเป็นกล้องยี่ห้ออื่นคงโดนสวดเละแต่เหล่าสาวกไลก้ามันรับกันได้ (ซะงั้น) เพราะด้วยความเพี้ยนของมันที่รับแสงช่วงอินฟราเรดมามากทำให้ผ้าดำสีออกม่วง ๆ พอแปลงเป็นภาพขาวดำมันเลยมีการไล่โทนของสีดำดีมาก ผู้คนเลยตื่นเต้นกันใหญ่ แต่การที่ชัตเตอร์มันเจ๊ง Error เนี่ย มันเหมือนระเบิดเวลานับถอยหลังอยู่ในมือ เพราะพังทีส่งเยอรมัน 3-6 เดือนกับเงินราว ๆ 3-4 หมื่น มันคือไรวะ หรือถ้าซ่อมในไทยเองก็ราว ๆ หมื่นนึง ก็อะไรวะอยู่ดี แถมด้วย Coffee ring บนจอหลังให้เซ็ง ๆ กันไป

ส่วน Leica M9 ก็มีปัญหา CCD ลอก ซึ่งเป็นกันถ้วนหน้าทั้ง M9, M9-P, M-E, M-monochrom ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ฟรีแต่เสียค่าส่งเองนะ ล่าสุด Leica ออกมาประกาศว่าแก้ไขได้แล้ว ถ้าผู้ใช้ส่งไปเปลี่ยนมาคราวนี้รับรองไม่ลอกให้รำคาญใจ ทำให้ราคากล้องมือสอง series นี้ถีบตัวขึ้นมาหลายหมื่นบาททีเดียว ส่วนตัวไม่เคยลองเล่นครับ

Leica M (typ240) (ตั้งชื่อไว้ว่า Bragi) ที่อยู่ในมือนี่ ดูจะลงตัวที่สุด ถึงแม้ว่าจะเสียคาแรกเตอร์ภาพแบบ CCD ไป แต่การใช้งานมันก็ง่ายเหลือเกิน แถมด้วยฟังก์ชั่นจุกจิกบ้าบอเช่น EVF ถ่าย Video ได้ ซึ่งแบบ คนเล่นกล้องแบบนี้ อาร์ตติสแดรกหมดหัวแล้วคงไม่ค่อยสนใจ แต่กล้องรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก (เคยได้ยินคนมีปัญหากันเนือง ๆ เหมือนกัน แต่ผมยังไม่โดนนะ) ใช้ห้อยคอ (คอห้อย) ไปไหนมาไหนก็ดูดี ถ่ายไม่ต้องไปหวังผลกับมันมาก DSLR หรือ Mirrorless เป๊ะกว่าจริง ๆ ต้องถ่ายแบบ เอาอารมณ์มา อารมณ์นำ ใครดูไม่สวย กรูว่าสวยเป็นใช้ได้ พวกคนอื่นมันเข้าไม่ถึง ไม่ต้องสนใจมัน 555 (ประชด)

จะเห็นว่าถ้าตั้ง standard จากกล้องทั้งหมด ภาพ jpg ที่ได้จะจมมากๆ รายละเอียดส่วนมืดหายหมดเลย ภาพจาก M(typ240) + summarit 35/2.5

Leica M (typ240) + Leica summarit 35/2.5 JPG from camera

ส่วนภาพที่เหลือก็ให้เป็นตัวอย่าง ดู ๆ กันเล่น ๆ ไปครับ กล้องออกมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2012 เดี๋ยวก็ตกรุ่นแล้ว อิ อิ

Leica M (typ240) + Leica summarit 35/2.5 RAW to BW

Leica M (typ240) + Mamiya Sekor 55/1.4

Leica M (typ240) + Leica summarit 35/2.5

สุดท้าย Leica มันเป็นเครื่องประดับที่ถ่ายรูปได้จริง ๆ ถ้าจะเอาประสิทธิภาพความเร็วไปมองยี่ห้ออื่นเลยครับ ถ้าเริ่มอาร์ตติสแดรกแล้วทำอะไรแบบหาเหตุผลไม่ค่อยได้แล้วค่อยมาว่ากัน และขอเตือนว่าการถ่ายรูปมันเป็นการบันทึกความทรงจำ ถ่ายแล้วอย่ามานั่งจ้องภาพนาน มันจะเห็นความแตกต่างของกล้องแต่ละยี่ห้อ เลนส์แต่ละรุ่น แล้วมันจะคันนะครับพี่น้อง

ยังไม่ท้ายสุด นี่คือ Leica M edition 60 (ตั้งชื่อไว้ว่า Mimir) ผลิตแค่ 600 ตัวบนโลกมนุษย์ใบนี้ มีคนซื้อชุดแล้วแยกเลนส์ไป ขายบอดี้อย่างเดียวราคาเท่า Leica M-P 240 มือสอง แล้วใครจะไม่เอาไว้ อิ อิ แบกกล่องมาใหญ่เท่าบ้านแถมหนักมาก เปิดมาอลังการสมกับเป็นตัว Limited ตัวกล้องออกแบบโดย Audi design จะต่างจากรุ่นปกติทั่วไปคือ ใช้ Stainless steel ทั้งหมดแทนทองเหลืองที่ใช้ตามปกติ และหุ้มด้วยหนังลูกวัวแท้ ปั๊มลาย ทำสี Anthracite grey กล้องตัวนี้ไม่มีหูคล้องสาย แต่จะให้ Half case หนังพร้อมสายคล้องคอมาด้วย และกล้องตัวนี้ไม่มีจอหลังนะคร้าบ คือ...มันเป็นกล้องดิจิทัลที่ปลอมตัวเป็นกล้องฟิล์ม (อาร์ตตริสแดรกพอมั้ย) แล้วด้วยความที่ไม่มีจอหลังนี่เอง กล้องเลยประหยัดแบตสุด ๆ (นี่ถ่ายมา 3 วันละ แบตลดไป 10% เอง)

ตลอดทั้งตัวพร้อมเลนส์มันมีปุ่มกดเล่นได้อยู่ 3 ปุ่ม คือปุ่มกดเอาเลนส์ออก ปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มเช็คแบตเตอรี่/จำนวนภาพที่ถ่ายได้ในการ์ด และมีอะไรหมุนๆให้เล่นอีก 3 อย่าง คือชัตเตอร์สปีด ISO และรูรับแสงที่เลนส์ แค่นั้น จบครับ ไม่ต้องหาปรับคอนทราส ความคม สไตล์ โทน สี บลาๆๆๆ แค่เปิดกล้องแล้วกด จบเลยครับ กล้องตัวนี้จะบันทึกเป็น RAW file เท่านั้น ก็นับว่ายังใจดีอยู่ที่ให้ผู้ใช้มาจัดการเองได้ภายหลัง ถ้าถ่ายเป็น jpg คงบ๊ายบายเพราะ Dynamic range มันยังไม่ยืดหยุ่นเท่าฟิล์มอยู่ดี

ชอบตรงที่มันหายาก ชอบที่มันออกแบบมาเรียบง่าย น้อย ชอบที่มันใช้ยาก (คนอื่นใช้ไม่ได้ และจะไม่ยอมให้แตะด้วย) แบบชั้นใช้ได้คนเดียว เสียดายที่สีตัวกล้องมันเข้ากับเลนส์อื่นๆไม่ได้เอาซะเล้ยยย ไว้ต้องไปหาพวกเลนส์สีไทเทเนี่ยมมาประกบ อิ อิ (เลนส์ในชุดมันเอง บอกตามตรง ไม่มีปัญญาครับ แค่เลนส์อย่างเดียวซัดไปเกือบสามแสน)

Leica M edition 60 + Leica Summarit 35/2.5

Leica M edition 60 + Leica Summarit 35/2.5

bottom of page